มาแล้วคร๊าบบบ
Press Coverage
เป็นเจ้าของกิจการในระบบแฟรนไชส์กับจีเอฟเอ ใครว่ายาก!!!
Coffee World-New York Deli-Pizza Corner-The Cream & Fudge Factory
ร้านกาแฟประเภท Fresh Roasted Coffee ที่มีเป็นจำนวนมากในอิตาลี ทำให้ร้านรูปแบบนี้ได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่ง ว่าเป็นร้านกาแฟ Italian Style ด้วยกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟที่คั่วสดๆ ผ่านการบด และเข้าสู่กระบวนการจนได้กาแฟหนึ่งแก้ว สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ให้ผู้ที่ได้ลองลิ้มชิมรสในขณะที่จิบกาแฟถ้วยโปรด แม้ทุกวันนี้ร้านกาแฟสไตล์อิตาเลียนจะผุดขึ้นตามที่ต่างๆ ทั่วโลก แต่น่าภูมิใจที่มีร้านกาแฟ ซึ่งในขณะนี้กำลังจะก้าวสู่ระดับ World Class โดยร้านดังกล่าวมีจุดกำเนิดจากเมืองไทย
Coffee World หรือโลกแห่งกาแฟที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ แม้จะมีจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ แบรนด์ Coffee World กำลังขยายสู่ระดับนานาชาติ เพื่อให้คนต่างชาติได้สัมผัสกับกาแฟที่มัคุณภาพ และมีตัวเลือกที่หลากหลายให้ลิ้มลอง
เฟรด โมอาวาร์ด ประธานและซีอีโอ โกลบอล แฟรนไชส์ อะคิเทคส์ หรือ จีเอฟเอ เจ้าของแบรนด์ Coffee World ได้กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้ร้านกาแฟของ Coffee World แตกต่างไปจากร้านกาแฟที่อื่นก็คือความหรูหราของการตกแต่งร้าน และความใกล้ชิด จากการบริการที่ส่งถึงโต๊ะลูกค้า ในขณะที่ร้านกาแฟหรูหราทุกแห่งลูกค้าจะต้องคอย รับกาแฟเองที่หน้าเคาน์เตอร์
Coffee World จะมีกาแฟรสชาติใหม่ออกมาเป็นระยะ เมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นพันธุ์อาราบิก้าซึ่งเป็นกาแฟพันธุ์ดีที่สุดในโลก มาทดลองผสมสูตรเพื่อหารสชาติที่แปลกใหม่ Coffee World ถือเป็นเจ้าแรกที่ใช้ศัพท์คำว่า Frappe ซึ่งหมายถึงกาแฟปั่นให้เนื้อกาแฟฟูและเบา จนร้านกาแฟอื่นๆ ต้องหยิบยืมคำศัพท์นี้ไปใช้บ้าง
ด้วยกาแฟที่มีหลากหลาย รอคอยคอกาแฟให้ลิ้มลองไม่ต่ำกว่า 20 แบบ อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มสำหรับเด็กที่ไม่ใช่เครื่องดื่มประเภทกาแฟ แถมยังมี waffle รสชาติหอมมัน เรียกได้ว่าคอกาแฟทั้งหลายจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่หรูหรา มีความเป็นส่วนตัว พร้อมกับการได้ละเมียดรสชาติของกาแฟ และอาหารเบาๆ ในขณะที่ใช้เวลาพักผ่อน
ณ วันนี้ Coffee World ถือเป็นร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 60 สาขา และเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนไทยจนติดอันดับ 1 ใน 3 ที่ลูกค้าต้องการไปนั่งดื่มกาแฟในร้าน (ข้อมูลจากบริษัทวิจัย SBIC มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต)
Coffee World จึงเป็นเรือธงที่นำธุรกิจของกลุ่มจีเอฟเอ ให้ต่อยอดไปสู่บริษัทที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในระดับซูเปอร์พรีเมียม โดย ณ ขณะนี้ได้ขยายสินค้าไปสู่ แซนด์วิช นิวยอร์ก เดลี (New York Deli) พิซซ่า คอร์เนอร์ (Pizza Corner) และไอศกรีม เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟคตอรี่(The Cream & Fudge Factory)
New York Deli : ทางเลือกคนรุ่นใหม่
แม้ New York Deli จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา
เปิดสาขาแรกที่ศาลาแดงเมื่อเดือนสิงหาคม 2547 แต่ก็ถือว่าเป็นการปลุกตลาดแซนด์วิชระดับบนให้คึกคัก และที่ผ่านมาลูกค้าก็เริ่มให้การต้อนรับมากขึ้น สินค้าที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์ New York Deli มีทั้งแซนด์วิช สลัด ซุป และซอฟท์ดริ้ง ซึ่งถือเป็นทางเลือกให้คนรุ่นใหม่ได้ทดลอง
นอกจากสาขาศาลาแดงแล้ว New York Deli ยังมีแผนที่จะเปิดสาขาที่เพลินจิตเซ็นเตอร์ พัฒนพงษ์ เซ็นทรัลเวิลด์ และสยามพารากอน
Pizza Corner : พิซซ่าที่เน้นตลาด Take away
Pizza Corner เป็นแบรนด์พิซซ่าที่มีจุดเริ่มต้นจากอินเดีย และที่อินเดีย Pizza Corner เป็นแบรนด์ที่มี Market Share สูงเป็นอันดับหนึ่ง จีเอฟเอจึงได้นำ Pizza Corner เข้ามาขยายสาขาที่จีนและไทย
การทำตลาดของ Pizza Corner จะแตกต่างจากแบรนด์อื่น ด้วยการเปิดสาขาในรูปแบบคอร์เนอร์ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ดิสเคานท์สโตร์ ศูนย์การค้า สถานีบริการน้ำมัน อาคารสำนักงาน โรงภาพยนตร์ และย่านธุรกิจต่างๆ โดยเน้นโลเกชั่นที่ร้านพิซซ่าขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง
นอกจากนี้จุดขายของ Pizza Corner คือการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และการปรุง พร้อมทั้งอบสดใหม่ที่ร้าน โดยใช้เวลาอบเพียง 6 นาที ขณะที่แบรนด์อื่นจะนำพิซซ่าที่ผลิตในรูปอาหารแช่แข็งมาอุ่นเพื่อจำหน่าย
สำหรับราคาขายจะเริ่มตั้งแต่ 80-180 บาท มี 2 ขนาดให้เลือก คือขนาด 6 นิ้ว และ 8 นิ้ว ลูกค้าสามารถนั่งทานในร้านในรูปแบบ Express โดยไม่จำเป็นต้องมาหลายคน เหมือนกับการให้บริการของร้านพิซซ่าขนาดใหญ่ และสิ่งที่ Pizza Corner จะเน้นการทำตลาดเป็นพิเศษ ก็คือบริการในรูปแบบ Take away
ปัจจุบัน Pizza Corner มี 2 สาขาคือที่โรบินสันบางรัก และสถานีบริการน้ำมัน ปิโตรนาส ถนนศรีนครินทร์ และจะขยายสาขาให้ได้ 100 สาขาในปี 2552 แบ่งเป็นสาขาแฟรนไชส์ 50 สาขา และอีก 50 สาขา บริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการเอง
The Cream & Fudge Factory: ไอศกรีมน้องใหม่เปิดตัวปลายปี
The Cream & Fudge Factory เป็นร้านไอศกรีมพรีเมียมราคา 60 บาทต่อสกู๊ปขนาด 90 กรัม ลูกค้าสามารถเลือกท็อปปิ้งและแต่งหน้าได้เอง จีเอฟเอจะเปิดตัว The Cream & Fudge Factory ปลายปีนี้ ตั้งเป้าจะเปิดให้ได้ 6 สาขา เช่น สยามพารากอน เดอะมอลล์บางกะปิ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต หัวหิน เป็นต้น
แผนธุรกิจและรายละเอียดของแฟรนไชส์ในเครือจีเอฟเอ
จีเอฟเอจะใช้กลยุทธ์การเปิดร้านทุกแบรนด์ภายใต้พื้นที่เดียวกันเพื่อประหยัดงบลงทุน ทั้งการหาพื้นที่ การใช้บุคลากร และสามารถเป็นจุดดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้ เนื่องจากมีอาหารที่หลากหลาย และยังทำให้การสร้างรายได้ต่อพื้นที่ต่อตารางเมตร มีมากกว่าการเปิดแบรนด์เดียว
คาดว่าจากแผนการขยายสาขาในไทยจะมีร้านที่เปิดทั้ง 4 แบรนด์รวมกันประมาณ 25%
ซึ่งปลายปีนี้จะเปิดรูปแบบร้านที่รวมทุกแบรนด์ในที่เดียวกันเป็นแห่งแรกที่โครงการสายลมพาวิลเลียน หัวหิน พื้นที่รวม 200 ตารางเมตร ที่ผ่านมาเริ่มมีการเปิดในพื้นที่เดียวกันบ้าง แต่ไม่ครบ 4 แบรนด์ เช่น ร้าน New York Deli กับ Coffee World ที่ศาลาแดง
ร้าน Pizza Corner และ Coffee World ที่โรบินสันบางรัก และที่ปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ถนนศรีนครินทร์
รายละเอียดของแฟรนไชส์ทั้ง 4 แบรนด์จะมีอายุสัญญานาน 6 ปี เสียค่าแฟรนไชส์ฟี 6 แสนบาท ค่าอุปกรณ์วัตถุดิบ 1-2.4 ล้านบาท ค่ารอยัลตี้ฟี 6% ค่ามาร์เก็ตติ้งฟี 2% ลงทุนรวมประมาณ 1.6-3 ล้านบาท และเบื้องต้นจะใช้งบประมาณ 10% จากยอดขายมาทำการตลาด
ผู้ที่สนใจร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร.02-688-7360 หรือ
www.gfacorp.com
http://www.pizzacorner.com/press/th/brch.asp