โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2549 12:23 น.
ตามที่ น.พ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงานแถลงข่าวโครงการ "ทอดกฐินปลอดเหล้า ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง" ว่าในสัปดาห์หน้า สธ.จะออกประกาศควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสื่อทุกชนิด โดยห้ามโฆษณาในสื่อตลอด 24 ช.ม. โดยสาระสำคัญก็คือห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในทุกสื่อ ตลอด 24 ช.ม. รวมถึงการโฆษณารูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ลานเบียร์ การโฆษณา ณ จุดขายต่างๆ ของแจก ของแถม ฯลฯ ซึ่งล้วนอยู่ในนิยามของคำว่าการโฆษณา เว้นแต่เป็นการถ่ายทอดสดจากต่างประเทศที่ไม่สามารถนำสัญลักษณ์ทางการค้าออกได้ เพราะเป็นการส่งสัญญาณมาจากต่างประเทศ และ

ขอยืนยันว่าจะไม่มีการต่อรองใดๆ เป็นเพียงการแจ้งให้ทราบเท่านั้น และเชื่อว่าจะไม่มีบริษัทใดต่อรองอีก ซึ่งจะประกาศภายในสัปดาห์หน้าภายหลังจากที่หารือกันแล้ว บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้เขามีวิธีโฆษณาแฝงต่างๆ อาทิ ตราสัญลักษณ์คนละสีกับสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงจำเป็นต้องหารือกับฝ่ายกฎหมายก่อนว่าจะเข้าข่ายห้ามในประกาศฉบับดังกล่าวหรือไม่ หากฝ่าฝืนประกาศฉบับดังกล่าวจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" น.พ.มงคลกล่าว
ทั้งนี้ผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อย่างบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง เจ้าของสินค้าเบียร์สิงห์ ลีโอ ไทเบียร์ ซึ่งในส่วนของเบียร์ลีโอนั้นกำลังจะจัดการประกวด สุดยอดเซ็กซี่ ลีโอเกิร์ล รุ่นสองโดย ปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายโฆษณากล่าวว่า ประกาศฉบับนี้จะมีผลกระทบกับสินค้าของบริษัททุกยี่ห้อ
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวบอกพร้อมปฏิบัติตามประกาศเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มีข้อสังเกตว่า ทำไมมีข้อยกเว้นกรณีการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศที่โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยหันไปสนับสนุนฟุตบอลต่างประเทศแทนฟุตบอลไทย
โฆษณาเหล้าเบียร์ส่วนใหญ่ทำเพื่อสร้างตราสินค้าเป็นหลัก ไม่ได้กระตุ้นการบริโภค ขณะที่สุราขาวซึ่งไม่ได้โฆษณากลับมีส่วนแบ่งทางตลาดสูงถึง 60% ของมูลค่าตลาดรวมเหล้าเบียร์ทุกประเภท
ด้านผู้จัดจำหน่ายเบียร์รายหนึ่งบอกโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ากฎบางข้อมากเกินกว่าเหตุ อย่างเช่นกรณีห้ามมีตราสินค้าในลานเบียร์ เพราะ ลานเบียร์ก็คือสถานที่ที่จำหน่ายเบียร์โดยเฉพาะอยู่แล้ว เมื่อห้ามไม่ให้มีตราสินค้าใดๆ ในลานเบียร์เลย ถ้าเป็นสินค้ามาใหม่ก็จะไม่มีโอกาสแข่งขันกับยักษ์ใหญ่เดิมแบบนี้จะกลายเป็นการผูกขาดให้กับเจ้าตลาดเดิม อีกทั้งในลานเบียร์ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ผ้าปูโต๊ะก็จะมีตราสินค้าติดไว้แล้ว
ห้ามแบบนี้มันก็เกินไป เพราะ นี่คือสถานที่ ที่เขาเลือกจะเข้ามานั่งดื่มกันเองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ที่ดื่มว่าจะไปที่ไหน แต่เมื่อเข้ามาแล้วไม่มีป้ายโฆษณาเลยจะขายได้หรือ แล้วถ้าเขาจะสั่งก็สั่งสินค้าของยักษ์ใหญ่เจ้าเดิม ก็กลายเป็นการผูกขาดไปอีก และก็ต้องเลิกจ้างพนักงานที่มาเชียร์เบียร์ด้วย เพราะ ถือเข้าข่ายโฆษณา ซึ่งตรงนี้เป็นรายได้ให้กับพนักงานต่อคนต่อวันที่ต้องจ่ายก็ตกประมาณ 300 400 บาท ผมเชื่อว่าไม่มีสินค้าตัวไหนยอมจ้างพนักงานมาเป็นพนักงานเสิร์ฟ โดยไม่มีตราสินค้าบนชุดแน่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีพนักงานตกงานอีกเท่าไหร่ ถ้าห้ามกันถึงขนาดนี้
ด้าน จ๊ะโอ๋ - จุไรรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ เอกการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเธอทำงานเป็นพนักงานเชียร์เบียร์ไป เรียนไปบอกถ้าห้ามโฆษณาในบริเวณลานเบียร์ รวมทั้งร้านขายเหล้าแล้วสำหรับหลายๆ คนอาจจะตกงานไปเลย
ตกงานกันไปเลย ทำงานแบบนี้รายได้ดีด้วย ได้ราวๆ วันละ 300- 400 บาท ยิ่งใกล้ช่วงเปิดลานเบียร์ด้วยหมดกันไปเลยค่ะ เพราะ พริตตี้ เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสีสัน คิดว่าไม่กระทบอะไรมากกับผู้ที่ดื่มอยู่แล้วนะ เขาคงจะดื่มกันปกติ เคยดื่มยี่ห้ออะไรก็ดื่มยี่ห้อนั้น แต่ที่กระทบเต็มๆ ก็พริตตี้ที่เชียร์เบียร์นี่ล่ะ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาทำงานไปเรียนไป
มีหลายคนเรียนตอนกลางวันแล้ว พอตกเย็นก็ไปทำงานหารายได้มาส่งตัวเองเรียน ทั้งค่าเช้าหอพักสำหรับคนมาจากต่างจังหวัด ค่ากิน ค่าอยู่ คือต้องเข้าใจด้วยว่าที่ทำงานนี้ เพราะ กลางวันไปเรียน ตอนเย็นพอมีเวลาก็ออกมาทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเอง ดีที่ว่าตัวจ๊ะโอ๋ยังพอจะรับงานกลางวัน เป็นพริตตี้เปิดตัวสินค้าอื่นๆ ได้ แต่สำหรับคนอื่นที่ไม่มีลู่ทางคงเศร้าล่ะค่ะ
ออย จุฑารัตน์ นักเรียน ปวช. ซึ่งกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันกล่าวคือ จะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ทำงานเชียร์เบียร์ส่งตัวเองเรียน พอได้รู้ ว่า เขาห้ามโฆษณา ก็คิดเลยว่า รายได้ต้องหายไปแน่ เพราะ เราได้งานจากเขาอยู่ตลอด อย่าง ตอนนี้ปิดเทอมได้งาน 5 วันค่ะ รายได้ ก็จะแบ่งเป็นสองเรตของแต่ละงาน มีทั้งเรต 1000 บาทกับ 500 บาทต่องานหนึ่งงาน ออร์แกไนซ์ที่ส่งงานให้เขาก็รับเหมาไปเลย เราจึงมีงานตลอด
ส่วนใหญ่งานกลางคืนก็มีเยอะ เพราะเหมือนเขามีกำลังจ้างเยอะกว่า สินค้าอื่นๆ หากไม่มีงานเชียร์ตอนกลางคือให้ทำคงแย่ค่ะ เพราะสังกัดเดียวกันกับออยมีถึง100 - 200 คนและส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษาซึ่งทื่ทำงานก็มีทั้งเป็นรายได้เสริมและรายได้หลัก
ถ้าตั้งใจทำงานจริงๆ ก็ได้ประมาณหมื่นกว่าบาท หมื่นกว่าบาทที่ได้ก็เป็นค่าหอพัก ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายรายวัน ตรงนี้ถ้ากฎออกมาแย่แน่ๆ และหลายคนก็คงต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนและทำงานนี้เป็นการส่งตัวเองเรียนค่ะ ก็จะเรียนตอนกลางวัน กลางคืนก็ทำงานหารายได้พิเศษ