โดย kandahar » อังคาร ก.ย. 28, 2010 10:35 pm
ก่อนอื่นต้องกราบขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความกรุณาของอาจารย์พฤฒิพล
ขอบคุณคุณนุช สำหรับถุงมือที่ผมชอบเหลือเกิน ทั้งไมตรีจิตต์ที่มอบให้
กราบขอบคุณ คุณนิรันดร สำหรับการเติมวิญญาณเครื่องโต๊ะให้เต็ม
ตลอดจนคุณดวง และเก๋ สำหรับความเกื้อกูลที่มีต่อผมเป็นที่ยิ่ง
รวมทั้งทุกเสียงตอบรับในบอร์ดของเรา
และสำหรับน้องชายที่รักที่สุด พี่อยากจะบอกว่า
??? ????????????????? ???????????????
การตั้งเครื่องโต๊ะในสมัยร้อยปีให้หลังการสวรรคตของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงนับเป็นเรื่องใหญ่มาก
แต่จะเป็นด้วยเหตุประการไรมิทราบได้ ผมเกิดแรงบันดาลใจที่จะตั้งโต๊ะสักโต๊ะ โดยเริ่มในศก ๒๕๕๓ นี้
เป็นการฉลองพระเดชพระคุณคราวศตพรรษสวรรคาลยกาล เฉพาะองค์พระผู้พระราชทานประวัติศาสตร์เครื่องโต๊ะ
ตลอดจนเป็นเครื่องรฦกถึงเจ้านายหลายพระองค์ที่ได้ประทานพระกรุณาแก่สายสกุลของผมในการเล่นโต๊ะและถ้วยปั้น
ทั้งเป็นการบูชาพระคุณบ้านเมืองอย่างครั้งบ้านเมืองดี
เหนื่อย และเป็นภาระหนักนักสำหรับผม
ที่สำคัญ การตั้งโต๊ะสักโต๊ะต้องใช้อัฐฬสมหาศาล กว่าจะได้ชิ้นตะละชิ้นมาตั้งแต่ง เคยรำพึงในใจว่า จะหาเงินมาแต่ไหนหนอ
จนแล้วจนรอด ในที่สุดการเริ่มต้นก็ได้ดำเนินต่อไป โดยไม่มีทางจะหยุดยั้งตั้งกระบวนได้
เอาหนอ เลือกลายที่ผมจะเล่น ณ ปรัตยุบันกาลนี้ ซึ่งต้องไม่ซ้ำกับสมบัติสกุล
ต่อมา ค้นชิ้นที่มีในบ้าน ชิ้นลายคราม กี๋ หย่อง เท้า โต๊ะ โต๊ะขวางหลัง โต๊ะโขก โต๊ะซัด ซัดซ้าย ซัดขวา พวกนี้ไม่ใช่ปัญหานัก
ตามด้วยเครื่องหมายยศบรรดามีที่เคยเป็นของชิ้นเซี่ยงฮ้อ ไหมทอง เต๊กซ้วน เต๊กอี๋ ผ้าหน้าโต๊ะ
ซึ่งถือเป็นปัญหาหนักยิ่ง ด้วยทั้งหมดเป็นผ้าผ่อนแพรไหม ยกขึ้นจากหีบ เปิดออกดู
ปรากฏว่า กว่าร้อยละแปดสิบ แปรสภาพจากเครื่องยศงดงาม หน้าโต๊ะอันวิจิตร กลายเป็นผ้าขี้ริ้วที่ร่วงลงลุ่ย ๆ เป็นผุยไป
ซ่อมได้จะซ่อม ซ่อมไม่ได้จะสร้างใหม่ให้เหมือนเดิม
ไม่ทราบแรงฮึดบ้าดีเดือดอย่างนี้มาจากไหน ผมยังแปลกใจมิได้
เริ่มต้นได้ดี แต่ก็ลำบาก ชิ้นลายครามหายาก ราคาแพงเหลือเข็ญ
ชิ้นหลักของโต๊ะแปดชิ้น หามาเกินครึ่งปี ได้แค่สี่ชิ้น ชะรอยบุญมีเวรบัง เมื่อไหร่จะเต็มชิ้นหลัก ยังไม่ทราบได้
แต่ของปลีกที่ว่าหายากนัก กลับได้มา น่าแปลกใจ
ระหว่างทางเดินนี้ ผมพบอะไรมากต่อมาก เจอของที่ไม่นึกว่าจะได้เจอ
สมคงเป็นท่านแต่ก่อนช่วยกันหามาให้กระมัง
บ่อยครั้งมีของมายามไม่มีเงิน ผมยอมมีหนี้มาก ด้วยคิดว่าเงินรอเวลาก็หามาใช้ท่านได้
แต่หากของหลุดมือผมไปแล้ว ใครเล่าจะคู่ควร ของชิ้นนั้นท่านจะเลือกใคร
ท่านช่างหาวิธีการพิสูจน์น้ำใจดีแท้หนอ
การได้พบอาจารย์ พบคุณนิรันดรในยามนี้ เหมือนเป็นการวางแผนของท่านที่เรามองไม่เห็น
หากท่านประสงค์จะใช้สอย นี่คือการใช้สอยผม โดยไม่มีคำปฏิเสธแม้ครึ่งคำจากปาก
ลมหายใจของเครื่องโต๊ะ ที่ขาดสายไร้การเหลียวแลเมื่อสิ้นแผ่นดินทอง กำลังได้รับการเยียวยา
สายใยบาง ๆ ของลมหายใจรวยริน ถ้อยคำที่เครื่องโต๊ะแต่ละชิ้นกำลังบอกเล่า กระซิบอย่างเบาเหลือแสน
ถ้อยคำที่หมายให้คนซึ่งเกิดหลังยุคทองนั้นเกินกว่าร้อยปีได้เฝ้าฟัง
ตอนนี้ เหมือนผมได้ยินผู้อาวุโส ผ่านร้อนหนาวมากนัก ระล่ำละลักเล่าด้วยเสียงที่เบาแทบไม่ได้ยิน
มากหลายท่าน นับด้วยร้อยปาก ที่เมื่อรู้ว่าหลานลื่อคนหนึ่ง มารอฟังเรื่องของท่าน ตะละท่านก็แย่งกันเล่าจากรอบทิศ
ด้วยพรั่นใจว่าท่านจะขาดลมหายใจไปได้ทุกเมื่อ และกลัวว่าหลานลื่อผู้นี้ จะไม่ได้ยินท่าน ไม่ได้ฟังกัน
ผมจะบอกท่านว่า หลานลื่อผู้นี้เฝ้าฟัง และรฦกถึงน้ำลายไอปากจากท่านเสมอ
เขาจะทำไปจนตลอดชีวิตจะอำนวยและดำเนินต่อไปได้
ผมอยากตั้งโต๊ะให้ได้ดูชมกัน
หากแต่การตั้งโต๊ะให้ชมในเวลานี้ เป็นเรื่องยากลำบาก
อาจต้องใช้รถหกล้อสองสามคันในการขน เฉพาะโต๊ะขวางหลัง โต๊ะโขก กี๋ หย่อง เท้า
ไม่นับเครื่องลายครามอีกเกือบร้อยชิ้น (ในกรณีที่ตั้งเต็มอัตราใหญ่)
แตกหักเสียหายไป ขั้นต่ำมีเรือนหมื่น ขั้นสูงมีเรือนล้าน แต่ที่แน่ คือใจมันจะขาดตามชิ้นไปสิ้น
ลางที หากเอารูปลง ก็กลัวว่าอาจมีเวปไซด์ขโมยรูปไปบ้าง ขโมยบทความบ้าง
เช่นที่หนังสืองานศพคุณสุเพี้ยน เวชชาชีวะ หรือ หนังสือของวัดราชบพิธ
โดนขโมยรูปที่ชา รูปเครื่องถ้วย ไปโดยไม่ให้เครดิตใดแม้สักตัวอักษรเดียว
แถมแปะโลโก้ของตัวทับไปอีก เพื่อประโยชน์ทางการค้าและการทำธุรกิจเป็นหลัก
เห็นแล้วก็ไม่อยากให้สิ่งที่ใจผมอยากทำ มันแพร่ไปในประโยชน์ของการค้า การหากำไร
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกท่านที่อุตสาหะอ่านเรื่องเรื่อยเปื่อยของผมมาจนบรรทัดนี้
เอาเป็นว่า วันหนึ่ง เครื่องโต๊ะนี้ จะไม่สูญหายไปจากแผ่นดินสยามแน่นอนครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุดโดย
kandahar เมื่อ อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:07 pm, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง