หน้า 1 จากทั้งหมด 2

หนังสือ ดุสิตสมิต

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:28 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
เมื่อ ร6 ทรงคิดตั้งเมือง ดุสิตธานี แล้ว เพื่อที่จะให้ ดุสิตธานี มีความสมบูรณื ท่านทรง ให้มี หนังสือพิมพ์ ประจำเมืองด้วย คือ
หนังสือพิมพ์ ดุสิตสมิต เริ่มออก เมื่อ พ.ส 2461 เป็ที่รุ้กันว่า
ร 6 ท่านทรงเป็น บรรณาธิการ ของหนังสือเล่มนี้ ดุสิตสมิต ออก ถึง 2467 จึงได้หยุดไป
หนังสือ เล่มนี้ เป็น ฉบับพิเศษ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มค 2462 หนา 200 หน้า

รูปภาพรูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:29 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
หลายท่านคงมีสะสมกันแล้ว แต่ ผมเพิ่งมี กะเค้าเล่มแรก

รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:31 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
ในเล่มก็มีรูป บทความ โครง กลอน
รูปภาพรูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:31 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
รูปภาพรูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:32 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:32 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:33 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
รูปภาพรูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:34 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 2:50 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
ดุสิต ธานี มา รุ้จักกัน

บริเวณพระราชวัง จะเห็นมีสนามหญ้าราบเรียบคั่นระหว่างอ่างหยกตรงนี้กับพระที่นั่งอุดร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัว สนามตรงนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีเนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ครึ่ง เป็นที่ตั้งของเมืองเล็กๆคล้ายเมืองตุ๊กตาประกอบด้วย พระราชวัง ศาลารัฐบาล วัดวาอาราม อาคารกลุ่ม บ้านใหญ่ และ บ้านน้อย ประมาณเกือบสองร้อยหลัง สร้างด้วยฝีมือประณีตบรรจงเห็นรายละเอียดปลีกย่อย ทาสีสวยสด มีสวนดอกไม้และถนนสายยาวสายเล็กๆลัดเลี้ยวผ่านหน้าบ้านไปจนทั่วเมือง ปลูกต้นไม้เล็กๆไว้ร่มรื่นข้างถนนสายสำคัญ พอตกกลางคืน ไฟฟ้าที่ติดไว้ในบ้านก็เปิดสว่างแลระยิบระยับเมื่อมองจากที่ไกล สวยงามราวกับเมืองในเทพนิยาย ถ้าหากว่ายังดูแลทะนุบำรุงไว้จนทุกวันนี้ ก็จะเป็นเมืองจำลอง ที่อวดนักท่องเที่ยวได้ไม่แพ้เมืองจำลองมาดูโรดัมในเนเธอร์แลนด์เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม "ดุสิตธานี" ไม่ใช่เมืองตุ๊กตาเป็นของเล่นสนุกๆ แต่เป็นแบบทดลองของการปกครองแบบตะวันตกที่คนไทยสมัยนั้นยังไม่รู้จักมาก่อน รูปแบบการดำเนินงานดัดแปลงมาจากธรรมนูญการปกครองเทศบาลของอังกฤษ เริ่มด้วยพลเมือง(เรียกว่านาคร) ลงเสียงเลือกตั้งผู้แทนในแต่ละอำเภอของดุสิตธานี เรียกผู้แทนว่า เชษฐบุรุษ แล้วเชษฐบุรุษ ก็ไปเลือกคณะ นคราภิบาลมาปกครองเมืองดุสิตธานีอีกที มีการออก"ธรรมนูญลักษณะปกครองคณะนคราภิบาลกันอย่างจริงจัง มีการประชุมดำเนินงานกันแบบของจริง
พระราชประสงค์ในการสร้าง"ดุสิตธานี"เห็นได้จากพระราชดำรัสในวันเปิดศาลารัฐบาลดุสิตธานี ว่า"

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:02 pm
โดย ("\(*-*)/")
ต่อ tapae inn เขียน:หลายท่านคงมีสะสมกันแล้ว แต่ ผมเพิ่งมี กะเค้าเล่มแรก

ไม่ง่ายนะครับ ที่จะหาสะสมกัน
บอกได้เลยว่า สภาพสุดยอดครับคุณต่อ :smile:

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:02 pm
โดย o_TeeBenzRongnok
ผมเห็นเมืองแล้วรู้สึกว่าน่าเสียดายเหมือนกันนะครับ เพราะว่าถ้าไมมีเมืองจำลองที่เราเห็น เราก็จะไม่ได้รู้เมืองประชาธิปไตยสิครับ (เสียดายประวัติศาสตร์ไทย) :(

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 12:22 am
โดย o_lekpn
ผมก็ยังไม่มีเหมือนกันครับ :(

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 9:02 am
โดย o_cokeyuth
:smile: :smile: :smile:
เจ๋งครับ และให้ความรู้
:D :D :D

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 7:14 pm
โดย o_PAO
ได้ยินชื่อหนังสือ ดุสิตสมิต มาตั้งแต่ตอนเรียน เพิ่งเห็นของจริง :-o

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 8:48 pm
โดย o_ต่อ tapae inn
ดุสิตสมิต จำได้เลย ตอนเห็นครั้งแรกในหนังสือ พี่เอนก อ่านว่า " ชาลอต สมอต " 55555