หาดทิพย์ทุ่มงบผลิตกระป๋องปากแคบรายแรกไทย

[o_PAO]

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

หาดใหญ่ - บริษัทหาดทิพย์ สวนกระแสเงินสด ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ผลิตสินค้ากระป๋องแบบปากแคบ รายแรกในประเทศไทย
เผยแนวโน้มบรรจุภัณฑ์แบบกระป๋องโตระดับตัวเลข 2 หลัก/ปี ในขณะที่แนวโน้มสินค้าขวดแก้วลดลง ฝันทำยอดขายปี 2552 มูลค่า 3,000 ล้านบาท



พ.อ.พัชร รัตตกุล ที่ปรึกษาบริษัทหาดทิพย์จำกัด (มหาชน) ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โคคา-โคลา 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า
ในเดือนเม.ย.นี้ ทางบริษัทจะผลิตสินค้าน้ำอัดลมบรรจุกระป๋องขนาดเล็ก (ปากแคบ) หรือ (ligt weight CAN) หลังจากที่ทางบริษัท
ได้ตัดสินใจสั่งนำเข้าเครื่องจักรในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 ที่ผ่านมา มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว
จะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิต เพราะเครื่องจักรผลิตกระป๋องแบบใหม่สามารถลดการใช้วัตถุดิบที่ใช้ผลิตกระป๋องได้ประมาณ
15 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังลดภาวะโลกร้อน เนื่องจากสามารถลดการใช้วัตถุดิบนั่นเอง และที่สำคัญแนวโน้มการบริโภคของผู้บริโภคแบบกระป๋องตัวเลขเพิ่มขึ้น
ในสัดส่วนของตัวเลข 2 หลักทุกปี ในขณะที่แนวโน้มการบริโภคแบบขวดลดลง "เราจะเปิดตัวสินค้าในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ใหม่ภายในเดือนเมษายนนี้
ที่ จ.ภูเก็ต เชื่อว่าจะได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี"

เขา กล่าวว่า การขยายการลงทุนดังกล่าว เพราะทางบริษัทต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของบริษัทในอนาคต
แม้สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะไม่ดี แต่มองว่าถ้ามีความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ จะทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้
"นอกจากเป็นผู้นำด้านการผลิตกระป๋องแบบใหม่รายแรกของไทยแล้ว ทางบริษัทยังเป็นผู้ผลิตรายแรกในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ที่ใช้ขวดพลาสติกแบบใหม่ (light weight PET) โดยเริ่มการผลิตเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท
ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้ลดการใช้พลาสติกในการผลิตประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์"

สำหรับตัวเลขยอดขายในปี 2552 ทางบริษัทยังเชื่อว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้น โดยประมาณการไว้ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท
จากยอดขายในปี 2551 ที่ผ่านมา ประมาณ 2,500 ล้านบาท หลังจากในปี 2551 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำอัดลมทั้งระบบ อยู่ที่ประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

"ในช่วงปีที่ผ่านมาต้องเจอกับปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นไปกว่า 40 บาท/ลิตร แต่ทางบริษัทก็สามารถปรับตัวและยังสามารถทำกำไรได้
แม้ว่าตัวเลขจะไม่สูงก็ตาม แต่ก็ถือว่าสามารถฝ่าวิกฤติที่เกิดขึ้นมาได้ ส่วนนโยบายในปี 2552 แผนการตลาดและการจัดการจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
จะต้องดูกันเป็นรายวัน แต่ก็ยังเชื่อมั่นในความผูกพันระหว่างผู้บริโภคในภาคใต้กับบริษัท ขณะที่ พ.อ.พัชร กล่าว

http://www.bangkokbiznews.com/2009/03/2 ... d=28429128

[Care_vespa]

"ทีเด็ด" หาดทิพย์ คับ

[o_PAO]

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4092

ยักษ์น้ำดำภาคใต้ "หาดทิพย์" พลิกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤต...! เดิมพันยอดขาย 3,000 ล้าน

สัมภาษณ์

ผลพวงจากการขึ้นราคาน้ำตาลและน้ำมัน รวมทั้งพิษเศรษฐกิจโลกดิ่งเหว ผสมโรงกับการปิดสนามบินเมื่อปลายปีที่แล้ว
และวันนี้ราคายางพารายังคงตกต่ำ บรรยากาศการจับจ่ายอยู่ในภาวะชะงักงัน ค่ายน้ำอัดลม "โค้กหาดทิพย์"
จึงต้องงัดแผนรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่คาดว่าจะลากยาวไปอีก

"พ.อ.พัชร รัตตกุล" ที่ปรึกษาบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) บุตรชาย ร.ต.ไพโรจน์ รัตตกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.หาดทิพย์
ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมโคคา-โคลา แฟนต้า สไปรท์ สเวปส์ น้ำดื่มและน้ำผลไม้ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ฉายภาพธุรกิจน้ำอัดลมว่า
สถานการณ์ปีที่แล้วแม้จะหนักหนาสาหัสแต่บริษัทยังเติบโตราว 10% ซึ่งโตกว่าอุตสาหกรรมน้ำอัดลมทั่วประเทศที่โตเพียง 2-3%
จากอุปสรรคการขึ้นราคาน้ำตาลและน้ำมันที่สูงถึงลิตรละ 40 บาท

แม้ราคาน้ำตาลและน้ำมันจะลดลงแล้ว แต่วัตถุดิบต่างๆ ทั้งขวดพลาสติก เม็ดพลาสติก และต้นทุนอื่นๆ ขึ้นราคาค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้นมาก
แต่ผลประกอบการของเรายังมีกำไร หลายบริษัทขาดทุนจนต้องปิดกิจการ แต่โชคดีที่เรารอดมาได้ และมองว่าวิกฤตครั้งนี้จะลากยาวไปอีก 2 ปี

พ.อ.พัชรย้ำว่า อย่าไปตื่นตกใจกลัวในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ สิ่งที่ทำให้ค่าย หาดทิพย์อยู่รอดและมีกำไร คือ การรู้จักจุดอ่อน-จุดแข็งของตัวเอง
การทำตลาดต้องดูกันเป็นรายวัน ไม่ใช่รายสัปดาห์หรือรายเดือน เพื่อพลิกกลยุทธ์ได้ทันท่วงที

"ที่เรารอดมาได้แม้จะมีวิกฤตหนักปานใด ผมว่าเพราะคนใต้สนับสนุนหาดทิพย์ซึ่งมีความผูกพันกับคนใต้นาน 30-40 ปี
แม้จะมีกำไรหรือไม่มีกำไร เราก็ยังเดินหน้างานซีเอสอาร์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมในภาคใต้มายาวนาน"

วิกฤตครั้งนี้ บริษัทอื่นลดคน เลิกจ้าง ปิดกิจการ แต่เราให้เงินช่วยเหลือพนักงานทุกคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ให้คนละ 4,000 บาท
ช่วยเหลือในช่วงเปิดเทอม ส่วนที่มีรายได้มากกว่านี้ให้ปรับลดหลั่นลงมา ขณะที่ฝ่ายบริหารเสียสละยอมปรับลดเงินเดือน
ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,500 คน

แม้จะมีทีมงานที่ดี มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง หากไม่ขยายช่องทางลงทุนเพิ่ม เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขาย เท่ากับเป็นการหยุดนิ่ง...!

หาดทิพย์จึงออกมาตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมแดนใต้ โดยในปีนี้ ลงทุนนับ 100 ล้านบาทซื้อเครื่องจักร จากออสเตรีย
เพื่อขึ้นไลน์ผลิต ผลิตภัณฑ์ประเภทกระป๋องชนิดไลต์เวต ที่มีน้ำหนักเบา ดูเพรียว อินเทรนด์มากขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนการใช้อะลูมิเนียมได้ถึง 16%
วางแผนจัดอีเวนต์เปิดตัวน้ำอัดลมกระป๋องชนิดไลต์เวตบนเกาะภูเก็ตในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นช่วงพีกสุดของฤดูขายประจำปี

นอกจากนี้ยังลงทุนปรับไลน์การผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมชนิดขวดเพ็ต (PET) โดยจับมือกับกลุ่มศรีไทยซุปเปอร์แวร์
ผลิตขวดเพ็ตแบบไลต์เวต ที่มีขนาดเพรียวและมีน้ำหนักเบาที่สุดในโลกเป็นรายแรกของประเทศอีกด้วย
เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ผลิตออกสู่ตลาดเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

จุดแข็งหนึ่งที่คู่แข่งยากที่จะต่อกร คือ ช่องทางการกระจายสินค้าของหาดทิพย์ที่ยึดหัวหาดมานาน ผ่านไปตามรถขายมากกว่า 60,000 ร้านค้า
และที่เป็นศูนย์กระจายสินค้า manual distribution centers (MDC) อีกประมาณ 70 รายที่เป็นตัวแทนหาดทิพย์ใน 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง

ช่องทางการขายที่จะเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ คือ การใช้ระบบพรีเซล (การขายล่วงหน้า) โดยให้ม้าเร็ววิ่งไปสำรวจและจดออร์เดอร์
แล้วโทร.กลับมายังหน่วยจัดส่งสินค้า วิธีง่ายๆ แบบนี้บริษัทไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการแบกลังหิ้วน้ำเต็มคันไป เร่ขาย
สูญเสียค่าน้ำมันไปปีละไม่น้อย

ทายาทโค้กหาดทิพย์บอกว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากการขายในตลาดภาคใต้ประมาณ 2,500 ล้านบาท ครองมาร์เก็ตแชร์ 70%
ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท สำหรับตลาดรวมในประเทศ 2 เจ้าใหญ่ทั้งของไทยน้ำทิพย์และเสริมสุข มียอดขายค่ายละประมาณ 20,000 ล้านบาท

พ.อ.พัชรยังเผยข้อมูลอีกว่า ยอดขายเกาะภูเก็ตในรอบ 10 ปีไม่เคยตก แต่ต้น ปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ยอดขายลดลงถึง 40% ต่ำสุดในรอบทศวรรษ
จากปัญหาการปิดสนามบินและวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้นักท่องเที่ยวไม่เข้ามาภูเก็ต

แต่เมษายนนี้หาดทิพย์คาดหวังว่า น่าจะฟื้นขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะกำลังซื้อจากภายในประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์
บวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และแผนการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ

แม้เศรษฐกิจไม่เป็นใจ แต่หาดทิพย์ก็ประกาศยึดพื้นที่ขาย พร้อมทุ่มทุนสร้างสีสันและสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภค
ด้วยการจัดทีมระดมติดโปสเตอร์ สติ๊กเกอร์ ป้ายโลโก้ มีการตกแต่งตู้แช่ตามร้านอาหาร จุดขาย ร้านค้า รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว

วันนี้สีแดงพรึบทั้งภาคใต้ เป้าหมาย รายได้ 3,000 ล้าน จึงมีลุ้นสำหรับค่ายยักษ์น้ำดำแดนใต้ "โค้กหาดทิพย์"
http://www.matichon.co.th/prachachat/pr ... ionid=0211

[o_โค้ก โคราช]

ต้องอุดหนุนกระป๋องใหม่ของหาดทิพย์สักถาดแล้ว

[o_TeeBenzRongnok]

เอาด้วยครับ

[o_EAK]

ให้เงินช่วยเหลือพนง......4000บาท


จัดทีมระดมติด โปสเตอร์ .........

[o__thechai]

เราคงต้องตั้งทีมเฉพาะกิจแกะโปสเตอร์กันอีแล้ว

[o_Coolhei]

lสงสัย ต้องมี ลางาน

[superpunch]

ต.ตู้ ศิษย์ เชลซีสำนักเดียวกัน ฝากโปสเตอร์ให้พี่สักแผ่นด้วยเน้อ

[bankcoke]

วันนี้สีแดงพรึบทั้งภาคใต้ เป้าหมาย รายได้ 3,000 ล้าน จึงมีลุ้นสำหรับค่ายยักษ์น้ำดำแดนใต้ "โค้กหาดทิพย์http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02phu01300352&day=2009-03-30&sectionid=0211

สีแดงพรึบทั้งภาคใต้ ........ แล้วสีเหลือง จะลงไปได้มั้ยคร้าบบบบบบ ฮาฮาน่ะครับ

[o_copy]

ช่วงนี้หาดทิพย์แรงๆจริง

ดีๆบอร์ดจะได้ไม่เงียบ คึกคักดีจัง

[o_aoh]

วันนี้สีแดงพรึบทั้งภาคใต้ เป้าหมาย รายได้ 3,000 ล้าน จึงมีลุ้นสำหรับค่ายยักษ์น้ำดำแดนใต้ "โค้กหาดทิพย์http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02phu01300352&day=2009-03-30&sectionid=0211

สีแดงพรึบทั้งภาคใต้ ........ แล้วสีเหลือง จะลงไปได้มั้ยคร้าบบบบบบ ฮาฮาน่ะครับ

เค้าเลิกเทรน เหลือง แดง กันไปนานแล้วครับ เชยจริงๆ เลยนะครับ

[o_superantz]

ดื่มมาแล้ว