8 Jan 2010(2) ตื่นเต้น ตื่นเต้น
ทุ่มครึ่ง วันศุกร์ที่แปดมกราฯ
ตื่นเต้นจนเก็บไม่อยู่ วันนี้..ไม่สิ จริงๆ ตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืนเรื่องจะทำอะไรให้ที่รักกินเย็นนี้ อิอิ ..อย่าพึ่งขำ หัดทำอาหารฝรั่งครั้งแรกมันน่าตื่นเต้นจะตาย
วันก่อนได้ปลาคิปเปอร์ (Kipper) รมควันมาแพคนึง ซื้อมาแล้วก็มานั่งคิดว่าจะทำอะไรกินหว่า ..เอ่อ เราเน้นประหยัด อะไรลดราคาซื้ออันนั้นแล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไรกิน ไม่ใช่อยากกินอะไรแล้วซื้อมาทำ ฮี่ฮี่
เทรฟว่าทำฟิชพายดิ (Fish Pie-พายปลา) เพราะเรามีปลาแฮดด็อก (Haddock) เหลืออีกชิ้นนึง คิปเปอร์ค่อนข้างกลิ่นแรง รสคาวจัด ส่วนแฮดด็อกก็เป็นปลาเนื้อขาวรสชาติธรรมดา (เอ่อ ที่นี่เขาเรียกปลาตามสีเนื้อมันด้วยอ่ะ ทีแรกก็งง แต่มันมีเนื้อสีเหลือง สีส้ม(อย่างแซลมอล) ก็เลยคิดว่า..อืม พอเข้าใจได้..ความรู้เรื่องนี้จะหามาเล่าให้ฟังต่อไป) คิดว่าถ้าเอาปลาสองอย่างมาผสมกันคงพอไปได้ จะได้กำจัดของในตู้เย็นไปบ้าง อิอิ
เทรฟอธิบายวิธีทำฟิชพายตอนก่อนนอน เราก็จินตนาการตาม (ไม่ได้ทำให้หิว แค่ตื่นเต้นอยากลองทำ อิอิ) พอวันนี้เราก็รอ ร๊อ รอ เมื่อไหร่ดาร์ลิ่งจะหิว จะได้เริ่มลงมือทำกับข้าว (คืออาหารที่นี่ควรทำแล้วกินเลยค่ะ..อากาศมันเย็น อะไรมันๆ เลี่ยนๆ นมๆ เนยๆ ไม่ควรกินตอนมันเย็นใช่ไหมคะ) วันนี้เทรฟกลับมาทำงานที่บ้านช่วงครึ่งวันบ่าย ระหว่างรอที่รักหิว เราก็อ่านตำราทำกับข้าวไปพลาง (ยืมมาจากห้องสมุด..ไม่มีซะล่ะจะเสียตังค์ซื้อ อิอิ) คือนอกจากเมนูเย็นนี้คือฟิชพายแล้ว เราก็คิดว่าจะทำยังไงกับไอ้ปลาคิปเปอร์ที่เหลืออีกชิ้น (มันมีสองชิ้นในแพค) และอะไรก็ตามที่มันออกมาจากตู้แช่แข็งแล้ว ไม่ควรเอากับไปแช่แข็งอีกรอบ..นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนที่นี่โดนสอนมา เพราะมันนั้นจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียอันอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย (freeze-แช่แข็ง/defrost-ละลายน้ำแข็งหรือปล่อยให้ของแช่ละลายกลับสู่ระดับอุณหภูมิห้อง/refreeze-เอากลับไปแช่แข็งอีกรอบ..เอ๊ะ นี่มันชั่วโมงภาษาอังกฤษหรือไงเนี่ย??)
เพราะงี้เราก็บรรเจิดไอเดียจะทำซุปปลา คืองี้เมื่อตอนกลางวันเทรฟกับมากินข้าวบ้าน เราอุ่นซุปกระป๋องให้กิน..ได้ยินถูกแล้วค่ะ "ซุปกระป๋อง" อารมณ์เหมือนปลากระป๋อง เปิดฝา เทอุ่นให้ร้อนแล้วกิน ง่ายกว่ามาม่าอีก พอกินแล้วก็บรรเจิดไอเดีย..ถามเทรฟว่า ไอ้ซุปเนี่ย เราทำแล้วแช่แข็งไว้อุ่นกินทีหลังได้ไหม เทรฟว่าได้ สาวิตรีก็โอเคเลยค่ะ งั้นเราทำซุปปลาดีกว่า..ฉะนั้นบ่ายนี้ก็เลยพลิกตำราอาหารให้วุ่นว่าจะเอาอะไรผสมอะไร มันถึงจะออกมาเป็นหน้าตาที่เรียกว่าซุปได้บ้าง (แบบไม่ต้องซื้อเครื่องปรุงเพิ่ม ใช้อะไรก็ตามที่มีอยู่แล้วเป็นหลัก อิอิ..หลักการเดิมค่ะ ประหยัด ประหยัด)
พอสี่โมงกว่า..เอาล่ะ ลงมือดีกว่า (เพราะเริ่มสับสนระหว่างตำราทำฟิชพายกับซุปปลา..เอ๊ะ เรียกฟิชซุป หรือพายปลาดีอ่ะ..เริ่มงงตัวเองอีกแล้ว)
เราเตรียมเครื่องปรุง...ไม่อยากจะเชื่อว่าเครื่องปรุงของกับข้าวสองจานนี้แทบจะเหมือนกันทุกประการ..เอ๊ะ อาหารฝรั่งมันง่ายอย่างนี้เลยเหรอ??
สับหอมใหญ่ กระเทียมเตรียมไว้ บนเตาเราต้มคิปเปอร์เพื่อลดความเค็ม ส่วนอีกหม้อก็ต้มน้ำเตรียมไว้ต้มมันฝรั่ง
แล้วเราก็ผัดหอมกระเทียมเข้าด้วยกัน ใส่เนื้อปลาที่ต้มแล้วผัดให้มันเข้ากัน ปรุงรสนิดหน่อย อ้อ มีไข่ต้มสับใส่แถมไปด้วยแล้วก็พักไว้ ส่วนมันฝรั่งพอสุก เทน้ำทิ้ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ (หนนี้เราไม่บดมันเพราะอยากกินแบบชิ้นๆ) อีกเตา(และอีกหม้อ) เทนม เติมเนย พาสลีย์ พริกไทดำ แป้งข้าวโพด ผสมเข้าด้วยกัน ระวังอย่าให้เดือดจัด..ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน รู้แต่ว่าเราไม่ชอบกลิ่นนมเดือด อิอิ จริงๆมันมีเหตุผลแหละแต่ไม่รู้.. เอาเป็นปล่อยให้ปุดๆ แต่อย่าเดือดจัด คนๆ จนมันเริ่มข้น แล้วก็เทมันลงไปในหม้อปลาคนๆ ให้เข้ากันแล้วก็เททั้งหมดใส่ถาดอบ โป๊ะหน้าด้วยมันฝรั่งแล้วขูดพาเมซานชีสโปะลงไป (Parmesan cheese) เอาเข้าเตาย่าง (Grill) แค่อยากให้ชีสละลายแล้วก็กลายเป็นสีน้ำตาลทองๆเท่านั้นเอง เพราะส่วนผสมอื่นๆ มันสุกหมดอยู่แล้ว กินคู่กับถั่วต้ม..เอ่อ..ถั่ว-Pea หน้าตาแบบเม็ดในของถั่วลันเตาต้มนะคะ มันจะเม็ดเขียวๆ ไม่ใช่ถั่วต้มเป็นฝักๆ แบบที่เขาหาบขาย อันนั้นเขาเรียก monkey nut ใช่แล้นน แปลว่าถั่วที่ให้ลิงกินนั่นเอง มีอีกอันคือ Peanut อันนี้ก็อีกอย่าง..แต่เอาไว้อธิบายวันหลังแล้วกัน
เอาเป็นว่า..ผลลัพธ์คือ..ที่รักชมว่า..อืม เก่ง รสชาติเหมือนฟิชพาย (เอ..ฟังดูเหมือนไม่ใช่คำชมเนอะ ..แต่ถ้าเทียบกับคราวก่อนที่ทำพาสต้าให้รสชาติเหมือนอาหารไทย อันนี้ต้องถือว่าเป็นคำชมอ่ะ อิอิ)
เราจัดการอาหารเย็นเสร็จก็มาจัดการกับซุป..ไม่อยากจะบอกเลยว่า ทำเหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง ต่างกันที่ต้มทุกอย่างรวมกัน ตั้งแต่หอม กระเทียม ปลา มันฝรั่ง ถั่ว และนม จากนั้นก็ปั่นให้มันเละเป็นซุป แค่นั้นเอง
อิอิ วันนี้ซื้อที่ปั่น (Blender) มาใหม่ ซื้อมาเพื่อการนี้เลยนะเนี่ย ฮี่ฮี่ สนุกทีเดียว วันหลังทำอะไรกินอีกแล้วจะมาเมาท์ให้ฟังใหม่ วันนี้ไปดีกว่า