จะได้มา share กัน ครับ ว่าลงทุนกันอย่างไรบ้าง

แนวทางการลงทุนของผม ก็คือรอให้ฝันคืนวันที่15เช้า16ซื้อเลยเดีประมาณ4โมงเย็นก็รู้ผลหุ้น ใช่ป่าวหว่า

BiBon เขียน:แนวทางการลงทุนของผม ก็คือรอให้ฝันคืนวันที่15เช้า16ซื้อเลยเดีประมาณ4โมงเย็นก็รู้ผลหุ้น ใช่ป่าวหว่า

พรุ่งนี้ออกอะไร

ThaiJack เขียน:

BiBon เขียน:แนวทางการลงทุนของผม ก็คือรอให้ฝันคืนวันที่15เช้า16ซื้อเลยเดีประมาณ4โมงเย็นก็รู้ผลหุ้น ใช่ป่าวหว่า

พรุ่งนี้ออกอะไร

เลขเด็ด 841

แชร์ใน ห้องสินธร หรือใน Thaivi น่าจะเวิร์คกว่าในนี้นะครับ

คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น

สนใจครับ แต่เล่นไม่เป็น อยากถือหุ้นไทยน้ำทิพย์ กับหาดทิพย์ครับ ไม่รู้ว่าจะมีบุญไหม?

หุ้นเมืองไทยมันไม่ได้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติน่ะครับ (พูดแบบนี้ เสี่ยงโดนด่าเหมือนกันแฮะ...ก็เพราะคนไทยรับเรื่องจริงยาก ชอบรับรู้อะไรที่มันหวานๆ ส่วนของจริงจะตรงข้ามอย่างไร ช่างมัน....แบบว่า...เข้าใจแต่เปลือกแต่ไร้ซึ่งแก่น)

ปัจจุบัน ผมบอกลาตลาดหุ้นไปนานแล้วครับ

จริงๆ แล้วตลาดไทยมันเล็กเมื่อเทียบกับอิทธิพลหรือกำลังซื้อขายแอบแฝงจากกลุ่มทุนเงินหนาเมืองนอก

ทำให้ปัจจัยเสี่ยงมันมากกว่าที่ควรเป็น (มันเป็นปัจจัยเสียงแบบไร้เหตุผลในการวิเคราะห์) พูดบ้านๆ ก็คือบางครั้งขึ้นลงแบบฝืนทิศทาง....

ถ้าตลาดใหญ่กว่านี้และตลาดเป็นตามกลไกธรรมชาติ ผมจะรีเทริ์นครับ แต่คงยาก นับวันแต่จะเตี้ยลง เพราะฐานการผลิตหลายส่วนอุตสาหกรรมมีแนวโน้มว่าจะย้าย....เพราะเราไม่มีพลังงานเป็นของตนเองอย่างเหลือเฟือสำหรับการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตนับวันจะสูงขึ้น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิต ในอนาคตกำไรต่อหน่วยก็จะลดลง มันก็กระทบถึงราคาหุ้นในกลุ่มนี้โดยตรง (คนละเรื่องกับหุ้นกลุ่มพลังงานนะครับ)

สำหรับผม ผมมองว่าสินค้ากลุ่มบริการเท่านั้นที่ทำให้ไทยอยู่ได้ในอีก 50 ปีข้างหน้า คิดง่ายๆ หลังจากเปิดเสรีทางการค้าแล้วเราจะผลิตอะไรในแง่ Goods ที่ไม่ใช่ Service แข่งกับจีนได้ ทุกวันนี้ของจีนถูกกว่าของไทย ผู้ผลิตไทยขายสินค้าไม่ได้มันก็กระทบโดยตรงกับตัว K หรือตัวทวีที่เป็นตัวบอกเรื่องการหมุนเวียนของเงิน (เรากินกระเทียมไทย คนขายกระเทียมก็ได้เงินไปซื้อปลาทู คนขายปลาทูก็ได้เงินไปให้คนจับปลา คนจับปลาได้เงินไปซื้อข้าวกิน ชาวนาไทยขายข้าวได้ ก็เอาเงินไปซื้อปลาทูและซื้อน้ำพริก....แต่ถ้าเราซื้อกระเทียมจีน ค่า K ก็จะหยุดเพราะเงินค่ากระเทียมจะหลุดไปจีนเลย) นี่เป็นตัวอย่างสั้นๆ ว่าทำไมเราจนลง เมื่อคนไทยจนลงก็จะออมและหยุดซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีบริษัทหลายแห่งอยู่ในตลาดหุ้นซะด้วย

เอาเป็นว่าถ้าว่างก็จะมาเขียนแชร์ความรู้ความเข้าใจแบบงูๆ ปลาๆ กันนะครับ

("\(*-*)/") เขียน:หุ้นเมืองไทยมันไม่ได้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติน่ะครับ (พูดแบบนี้ เสี่ยงโดนด่าเหมือนกันแฮะ...ก็เพราะคนไทยรับเรื่องจริงยาก ชอบรับรู้อะไรที่มันหวานๆ ส่วนของจริงจะตรงข้ามอย่างไร ช่างมัน....แบบว่า...เข้าใจแต่เปลือกแต่ไร้ซึ่งแก่น)

ปัจจุบัน ผมบอกลาตลาดหุ้นไปนานแล้วครับ

จริงๆ แล้วตลาดไทยมันเล็กเมื่อเทียบกับอิทธิพลหรือกำลังซื้อขายแอบแฝงจากกลุ่มทุนเงินหนาเมืองนอก

ทำให้ปัจจัยเสี่ยงมันมากกว่าที่ควรเป็น (มันเป็นปัจจัยเสียงแบบไร้เหตุผลในการวิเคราะห์) พูดบ้านๆ ก็คือบางครั้งขึ้นลงแบบฝืนทิศทาง....

ถ้าตลาดใหญ่กว่านี้และตลาดเป็นตามกลไกธรรมชาติ ผมจะรีเทริ์นครับ แต่คงยาก นับวันแต่จะเตี้ยลง เพราะฐานการผลิตหลายส่วนอุตสาหกรรมมีแนวโน้มว่าจะย้าย....เพราะเราไม่มีพลังงานเป็นของตนเองอย่างเหลือเฟือสำหรับการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตนับวันจะสูงขึ้น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิต ในอนาคตกำไรต่อหน่วยก็จะลดลง มันก็กระทบถึงราคาหุ้นในกลุ่มนี้โดยตรง (คนละเรื่องกับหุ้นกลุ่มพลังงานนะครับ)

สำหรับผม ผมมองว่าสินค้ากลุ่มบริการเท่านั้นที่ทำให้ไทยอยู่ได้ในอีก 50 ปีข้างหน้า คิดง่ายๆ หลังจากเปิดเสรีทางการค้าแล้วเราจะผลิตอะไรในแง่ Goods ที่ไม่ใช่ Service แข่งกับจีนได้ ทุกวันนี้ของจีนถูกกว่าของไทย ผู้ผลิตไทยขายสินค้าไม่ได้มันก็กระทบโดยตรงกับตัว K หรือตัวทวีที่เป็นตัวบอกเรื่องการหมุนเวียนของเงิน (เรากินกระเทียมไทย คนขายกระเทียมก็ได้เงินไปซื้อปลาทู คนขายปลาทูก็ได้เงินไปให้คนจับปลา คนจับปลาได้เงินไปซื้อข้าวกิน ชาวนาไทยขายข้าวได้ ก็เอาเงินไปซื้อปลาทูและซื้อน้ำพริก....แต่ถ้าเราซื้อกระเทียมจีน ค่า K ก็จะหยุดเพราะเงินค่ากระเทียมจะหลุดไปจีนเลย) นี่เป็นตัวอย่างสั้นๆ ว่าทำไมเราจนลง เมื่อคนไทยจนลงก็จะออมและหยุดซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีบริษัทหลายแห่งอยู่ในตลาดหุ้นซะด้วย

เอาเป็นว่าถ้าว่างก็จะมาเขียนแชร์ความรู้ความเข้าใจแบบงูๆ ปลาๆ กันนะครับ

.
.
ผมก็สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ

แต่หาแหล่งข้อมูลดีๆ (ให้แบบจริงใจ ไม่กั๊ก) ไม่ได้ซักที

ก็เลยได้แต่เพ้อ ๆ นั่งมอง นั่งฟังคนที่เค้าเล่น โม้ให้ฟัง

ก็ตามนั้นอ่ะครับ

เซงเป็ด
.
.

แค่หวยผมยังเล่นไม่ค่อยเป็นเลย

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

คือที่ผมเข้ามาถามในนี้ ไม่ได้ไปที่เว็บที่เกี่ยวกับหุ้นโดยตรง เพราะว่า อย่างน้อย เราก็คอเดียวกันครับ คือ ชอบ รัก และสะสม โค๊กเหมือนกัน และหากว่ามีอีกอย่างที่เหมือนกันอีกก็จะได้คุยกันถูกคอและแชร์ข้อมูลกันได้ครับ

สำหรับตลาดหุ้นไทย เห็นด้วยครับว่าส่วนใหญ่จะเล่นไปตามข่าว ข้อมูลวงในบ้าง ปั่นบ้าง
แต่ก็มีหุ้นจำนวนไม่น้อยครับ ที่เราสามารถศึกษา และลงทุนได้ ตามพื้นฐานจริงๆ และถือว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนดีทีเดียว (สำหรับผมแล้ว ได้สัก 10-15% ทบต้นทุกปีก็สุดยอดแล้วครับ) อย่าลืมว่าการฝากเงินในธนาคารอย่างเดียว ในภาวะดอกเบี้ยต่ำอย่างนี้ แค่จะให้ได้เงินเท่าตัวก็ต้องใช้เวลา 14.4 ปี (คิดที่ดอก 5% นะเนี่ย) แต่ถ้าหาผลตอบแทนได้สัก 15% ทบต้นก็ใช้เวลาแค่ 4.8 ปีเอง

Long

Therm

Hold

ให้เงินทำงานแทนคุณ

อย่าฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ ไว้มากเกินไป......ดอกเบี้ยต่ำ 0.75% ต่อ ปี

ควร ฝากประจำ หรือซื้อ พันธบัตร กองทุน ดอกเบี้ย 3-4% ไม่มาก แต่ก็ดีกว่า

เคลียร์หนี้ให้เร็ว.....เงินออมจะมาเอง

คนทำงานกินเงินเดือน ควรซื้อ Long Term Fund (LTF)
ได้สิทธิลดหย่อนภาษี

มีอีกหลายอย่างนะ........

อยากเล่นหุ้น แต่ต้องศึกษามากกว่านี้

อยากรวยต้องขนขวายหาความรู้.........(อันนี้ผมพยายามพูดกับตัวเองครับ)

ชอบเล่นหุ้นสโมสรฟุตบอลครับ


เคยเล่นหุ้นจริงๆตอนเรียนหนังสือแค่เดือนเดียว ปวดหัวแทบแย่