หน้า 1 จากทั้งหมด 4

เที่ยวสิบสองปันนา...กลับมาแบบเปียกๆ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 9:07 pm
โดย o_cokeyuth
ผมติดเรื่องท่องเที่ยวสิบสองปันนาไว้กับเพื่อนๆไว้
ตอนนี้แปะรูปเสร็จแล้วครับ เป็นรูปของกระผมเป็นส่วนใหญ่
แต่บางรูปมันๆ...ผมแอบดูดมาจากเวปอื่นนะครับ
หากเจ้าของภาพตัวจริงมาอ่านเจอ...กระผมก็ขออนุญาตและกราบขอบพระคุณไปพร้อมกันเลย

มีคนมักสงสัยกันว่า ทำไมผมแอบไปมาบ่อยๆ
ผมก็ถามตัวเองหลายหนเหมือนกันครับ....
ถามแล้วก็ได้คำตอบว่า ผมกลับไปดู "เงาอดีต" ของตัวเราเอง
ไปแล้วก็พบว่า นี่ไง "ความเรียบง่าย" ที่เราทำหล่นหายไป
ตอนที่เรารีบวิ่งขึ้นรถไฟสายทุนนิยม
ขึ้นมาแล้วรถไฟมันไปลิ่วเลย...ผมทั้งนึกในใจและตะโกน ว่า "จอดก่อน...ลุงจะลง"
ก็ไม่ยักมีใครมาสนใจ เลยได้แต่แอบฝันคนเดียวเงียบๆ
ทั้งสิบสองปันนา และ เมืองหลวงพระบาง นั่นแหละคือการกลับไปสู่เงาอดีตที่แสนหวาน

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 9:20 pm
โดย o_cokeyuth
แล้วสิบสองปันนา คืออะไร และ อยู่ตรงไหนกันล่ะ
สิบสองปันนาในอดีต คือ ประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งที่มีเจ้าหลวงปกครองอาณาประชาราษฏร์
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อ มีภาษาพูดภาษาเขียนและวัฒนธรรมเป็นแบบอย่างของตนเอง
ซึ่งเทียบกับประเทศล้านนาแล้ว มีส่วนคล้ายคลึงกันมาก ราวๆ 70-80%
ปัจจุบันดินแดนสิบสองปันนาเป็น เขตปกครองตนเอง อยู่ใต้สุดของมณฑลยูนนาน

รูปภาพ

ดูจากแผนที่จะเป็นเหมือนแผ่นดินที่ยื่นเข้ามาในอินโดจีน (หากเป็นดินแดนตะวันออกกลางตรงนี้อาจกลายเป็นฉนวน แบบเดียวกับ ฉนวนกาซ่าก็ได้)

เส้นทางจากเมืองไทยจะไปสิบสองปันนาโดยรถยนต์ ไปได้สองทาง คือ
เส้นทางที่ผ่านประเทศลาวดังรูปบน กับเส้นทางที่ผ่านประเทศพม่าในรูปข้างล่างนี้

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 9:31 pm
โดย o_cokeyuth
เส้นทางรถยนต์ที่ผ่านประเทศพม่านั้น สถานการณ์การเมืองไม่แน่นอน
และออกไปเดินเล่นซอกแซกคงจะไม่สนุก เพราะผมพูดพม่าไม่ได้ หรือหากหลุดโซนพม่า
ก็เข้าเขตว้าแดง...แหะๆ ผมยิ่งพูดไม่ได้ใหญ่ :lol:

ดังนั้นผมจึงเลือกเดินทางโดยรถเมล์ของปะเทดลาว คุยกันรู้เรื่อง ม่วนซื่นโฮแซวตลอดทาง
แม้ทางจะยากลำบากไปสักหน่อย แต่ไปในบ้านพี่เมืองน้องแล้ว อุ่นใจกว่ากันเยอะ
คับที่น่ะอยู่ได้...เบียดกันไปอุ่นดี แต่คับใจนั้นอยู่ยาก...เจื้อผมเต๊อะ 8)

รูปภาพ

คันนี้ไงล่ะครับ รถบัสต่อแรกของผม จากเมืองห้วยซาย แขวงบ่แก้ว ไปยังเมืองหลวงน้ำทา (จริงๆรถบัสคันนี้มีเส้นทางมาราธอน วิ่งไปจนถึงเมืองหลวงพระบาง หรือบางคันอาจวิ่งยาวจนถึงเวียงจันทน์ไปเลยก็มี)

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 10:00 pm
โดย o_cokeyuth
หากคุณสงสัยว่า แล้วมันจะมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้มั้ย
ผมก็ตอบได้เลยครับว่า "มี" เช่น ไปกับทัวร์ เขาก็จะเหมารถตู้เดินทางผ่านพม่า
ไปนอนเชียงตุงหนึ่งคืน แล้วยิงยาวเข้าไปนอนที่เชียงรุ่ง
หรือคุณอาจจะเดินทางโดยเรือสำราญ เจ้าชายแม่น้ำโขง ในฤดูน้ำหลาก ซึ่งปีนึงมีแค่ 3-4 เดือน

รูปภาพ

แต่นี่เป็นเดือนเมษายนครับ หมดสิทธิ์ไปทางเรือ
ยังไง๊ ยังไง ก็คงต้องไปทางรถยนต์

อีกทางเลือกหนึ่งคือ บินไปกับบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งสะดวกสบายดี ขาเดียวราวๆ6000-7000กว่าบาท
ไปกลับก็ 12000-13000กว่าบาท (รวมค่าจิปาถะแล้ว)...
ราคาโปรดเช็คให้แน่ๆอีกทีเพราะน้ำมันแพง มั่กๆ
เครื่องบินโดยมากเป็นเครื่องของประเทศฝรั่งเศส ATR แบบใบพัด มีข้อดีคือ บินไม่สูงมาก
เห็นวิวสวยตลอดทาง (หากเป็นเครื่องไอพ่นลำโตๆ มักจะบินเหนือเมฆจนอดชมวิว)
และที่เก๋อีกอย่างก็คือ เราจะได้เดินเล่นในรันเวย์ ไม่ต้องเดินในอุโมงค์
เมื่อมองไปยังท่าอากาศยานก็จะพบภาพโปร่งๆโล่งสายตาแบบนี้

รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 10:14 pm
โดย o_cokeyuth
เล่ามาทั้งหมด สำหรับคนที่มีงบเหลือเฟือนะครับ
แต่สำหรับผม สิ่งที่มีเหลือเฟือก็คือ "เวลา" แต่ว่างบมีอยู่จำกัด
ดังนั้นจึงต้องพึ่งรถบัสไปทีละต่อๆ ต่อแรกถึงหลวงน้ำทาแล้วค้างหนึ่งคืน
ต่อที่สองจากหลวงน้ำทามาชายแดนลาวคือบ่อเต็น ด้วยรถสองแถวไดฮัทสุ(แบบปากซอยเสนา)
ข้ามไปชายแดนจีนคือ บ่อหาน (คนจีนออกเสียงแบบนี้ไม่ได้เลยเรียกเมืองนี้ว่า Mohan)


รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 10:23 pm
โดย o_cokeyuth
ผ่านขั้นตอนการผ่านแดนแล้วก็หาจับรถตู้หรือรถบัสจากบ่อหาน/โมหัน
ไปยังเมืองหล้า...หากไม่เหนื่อยจนเกินไป หรือ หากไปถึงเมืองหล้าช่วงกลางวัน
ก็จะหารถบัสต่อไปเมืองเชียงรุ่งได้โดยสะดวก เดินทางอีก 3-4ชั่วโมง
ก็จะไปถึงเชียงรุ่งในช่วงเย็นๆ
ถึงเชียงรุ่งก็จะเจอ นางนกยูงยืนต้อนรับที่ตรงทางเข้าเมืองครับ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 11:02 pm
โดย o_cokeyuth
กว่าจะเดินทางจากเชียงของ มาจนถึงเชียงรุ่ง เมืองหลวงของอาณาจักรสิบสองปันนา
สำหรับผมที่ค่อยๆละเลียดมาเรื่อยๆ ก็ใช้เวลาถึงสามวันสามคืน ค้างหลวงน้ำทา ค้างเมืองหล้า
ค้างเมืองฮำ และแล้วก็ถึงเชียงรุ่งจนได้

ไนท์บาร์ซ่าเมืองเชียงรุ่งครับ
รูปภาพ

และห้างสรรพสินค้าเมืองเชียงรุ่ง
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 11:13 pm
โดย o_cokeyuth
แม้จะเป็นประเทศจีน แต่เชียงรุ่งก็มีเทศกาลสงกรานต์เหมือนไทย ลาว พม่านะครับ
ที่หลวงพระบางจะรดน้ำกันวันที่13เมษา วันที่14มีขบวนแห่นางสังขาน
วันที่15แห่พระบางออกมาสรงน้ำ

ที่เมืองไทย...สาดน้ำกันทุกวัน :lol:

แต่ที่เชียงรุ่งจะกลับกัน วันที่ 13 เมษา มีขบวนแห่ชนเผ่าและแข่งเรือ
วันที่ 14 มีขบวนแห่นางสังขาน+งานปอยบ้านถิ่น
ส่วนวันที่ 15 ค่อยออกมารดน้ำกันช่วงเช้า/บ่าย+รดน้ำผู้ใหญ่ช่วงบ่ายๆ

ผมตั้งใจไปงานนี้เลยแหละครับ...ตั้งใจจนเก็บอาการไม่อยู่หาเสื้อชุดพื้นเมืองมาใส่

รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 11:22 pm
โดย o_cokeyuth
อายุปูนนี้...เดินแถวตรอกข้าวสาร หรือถนนท่าแพ เชียงใหม่
รับรองได้...ตากแดดหัวแดงสามวันสามคืนก็ไม่เปียกสักนิด :cry:
แต่ขอโทษครับ....บังเอิญที่นี่เป็นเชียงรุ่ง
เรตติ้งของผมก็ยังพอใช้ได้ :lol:

รูปภาพ

พันคำบรรยายก็สู้ดูรูปหนึ่งรูปไม่ได้ครับ...ชมบรรยากาศกันดีกว่า

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 11:28 pm
โดย o_cokeyuth
เห็นภาพแล้วอยากเปียกบ้างไหมครับ...
ไปดูภาพอื่นๆของตากล้องมืออาชีพบ้างดีกว่า

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

น่าสนุกมั้ยครับคุณๆ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 11:32 pm
โดย o_cokeyuth
พาออกจากถนนที่เขาเล่นฮดน่าม (รดน้ำ)
ไปไหว้พระและดูสาวๆแต่งตัวสวยไปเข้างานปอยกันบ้างดีกว่าครับ

รูปภาพ
หากเจอสาวๆแต่งตัวสวยแบบนี้เดินตามไปได้เลยครับ มีงานปอยแน่ๆ
รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 08, 2006 11:52 pm
โดย o_cokeyuth
พาท่านสนุกจนลืมสิ่งที่เล่าค้างไว้ว่า "สิบสองปันนา" มีที่มาอย่างไร
"ปันนา" ก็คือ พันนา นั่นเอง แต่ ภาษากำเมือง และ ภาษาไทลื้อจะออกเสียง "พ" เป็น "ป"
เช่น น้ำมันแพง คนทางโน้นก็จะฮ้องว่า " น่ามมันแปง"
ดังนั้น นา 1000 นา-พันนา ก็คือ ปันนา นั่นเอง
จะออกเป็นพันนาก็ได้ หรือปันนาก็ได้
แต่ผมขอให้เกียรติเจ้าของภาษาครับ....ขอใช้คำว่า "ปันนา"

การที่จะมีที่นา 1000 นาได้นั้น แสดงว่าต้องเป็นที่ราบที่กว้างใหญ่ครับ
หากเป็นทุ่งบางกะปิที่อ้ายขวัญอีเรียมเคยพลอดรักกัน หรือเป็นทุ่งหลวงรังสิต-องครักษ์
นา 1000 นาเนี่ย...หมูเลย มีเป็นหมื่นนาก็ยังไหว

แต่ที่นี่ภูมิประเทศเหมือนภาคเหนือของไทยครับ
เป็นที่ภูเขาล้อมเอาไว้เสียเยอะ ที่นาจึงมีลักษณะเป็นที่ราบแอ่งกะทะที่ไม่ใหญ่นัก

รูปภาพ

ที่นา 1000 นา อาจจะหมายถึง ต้องเอาที่นาหลายๆแอ่ง (หลายๆเมือง)
เอามารวมกันจึงจะได้ครบ"หนึ่งปันนา"
แต่ละปันนาก็จะมีผู้ดูแลปกครอง...ระบบเดิมคงเป็นระบบศักดินา มีเจ้าปกครองแต่ละปันนา
ทั่วทั้งอาณาจักรของไทลื้อก็นับแบ่งกันได้เป็นสิบสองปันนา

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 12:28 am
โดย o_cokeyuth
รูปภาพ

กองทัพเดินด้วยท้องครับพี่น้อง อาหารหลักที่ผมดำรงชีพอยู่ได้
คือก๋วยเตี๋ยวชามละสิบบาท แต่ถ้าจะให้เวิร์ค...ควรติดเอาเครื่องปรุงซองๆของมาม่าไปด้วย

หากท่านมีตังค์หรือมากันหลายคนแต่พูดภาษาจีนไม่ได้สักคำ...เหมือนกะผม
ก็ต้องใช้วิธีเดินไปก้นครัว แล้วชี้ของหน้าตาแปลกๆมาดูเล่นสักอย่างสองอย่าง

รูปภาพ

ผลออกมาดูดีและอร่อยทีเดียวครับ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 12:44 am
โดย o_cokeyuth
ถ้าเป็นไปได้...หาโอกาสลองชิมอาหารไทลื้อสักมื้อนะครับ
อาหารเด่นของคนไทลื้อเหรอครับ....สโลแกน "รู้จริงเรื่องปิ้งย่าง"
เห็นควันฉุยๆโชยมาจากไหน ตามกลิ่นไปได้เลย
แต่ต้องกำชับเรื่องผงชูรสหน่อยนะครับ ว่าอย่าใส่เยอะ

หากคุณอายุยังไม่มาก ลองทาน"เนื้อทุบ" ดูสิครับ
ผ่านบ้านไทลื้อมักจะเห็นเนื้อแขวนตากแดดไว้
พอมีแขกมาบ้านเขาก็จะหั่นเอาเนื้อแดดเดียว
มาทุบสดๆ แล้วใส่จานมาทานเป็นกับข้าวหรือแกล้มเบียร์
พร้อมเครื่องเคียงคือ แตงกวา จิ้มน้ำหมี่ (น้ำพริก) หรือไม่ก็ น้ำพริกอ่อง

บางมื้อผมออกไปชนบท ชาวบ้านชวนขึ้นเรือนกินข้าวด้วยกัน
สำรับกับข้าวมื้อนั้นดูง่ายๆและรสชาติใช้ได้ทีเดียว

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 6:32 pm
โดย o_lekpn
หมดแล้วหลอพี่ กะลังมันเลย อ่านแล้วอยากไปด้วย อยากเช็คเรตติ้งมั่งอ่ะ :lol: