โดย o_Anonymous » จันทร์ พ.ย. 14, 2005 2:37 pm
บ้านเก่าเก็บ
เราขับรถออกจากตัวตลาดอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ราว 15 นาที ก่อนรถจะมาหยุดตรงหน้าบ้านไม้สีคล้ำ 2 ชั้น หลังคาสีแดงตัดกับสีเขียวครึ้มของต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง รั้วต้นอัญชันและต้นสร้อยอินทนิลหน้าบ้านแข่งกันออกดอกสีม่วง รวมไปสภาพรอบๆบ้านอันเป็นร่องรอยของท้องร่องสวนเก่า บรรยากาศเหล่านี้ล้วนบอกให้รู้ได้เป็นอย่างดีว่า นี่คือบ้านกลางสวนที่น่าอยู่ที่สุดหลังหนึ่ง
คุณไก่อูเชิญเราเดินชมรอบๆบ้าน ก่อนจะนำน้ำและผลไม้ถาดใหญ่มาต้อนรับเรา
จริงอย่างที่คุณป้าขายกล้วยทอดเล่า ว่าที่นี่มีของเก่าเก็บยุคคุณตาคุณยายอยู่เต็ม ไปหมด โดยเฉพาะของใช้ประจำวันที่คุ้นตาเมื่อสมัยเป็นเด็กทั้ง ลูกดิ่งน้ำอัดลม ป้ายโฆษณาเก่า ยาสีฟัน แชมพู สบู่ แป้ง และเฟอร์นิเจอร์โบราณ เมื่อมองเผินๆแล้วที่นี่น่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่ามากกว่าบ้านเสียอีก
"บ้านหลังนี้เริ่มสร้างเมื่อปี 2540 ที่จำได้แม่นเพราะเป็นช่วงที่ผมเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณปีกว่าๆ ส่วนแบบบ้านก็อาศัยจากการถ่ายภาพบ้านเก่าๆที่ผมชอบมาให้ช่างดูเป็นแบบ
"ช่างที่ว่าก็คือคุณลุงของผมเอง เขามาช่วยขึ้นโครงบ้านให้โดยไม่คิดเงิน แต่สร้างให้เฉพาะโครงผนังและหลังคานะส่วนอื่นอย่างเช่น ประตู หน้าต่าง ลูกกรง บันได โคมไฟ กระเบื้อง ผมต้องทำเองหมดครับ เพราะตอนนั้นคุณลุงได้งานก่อสร้างที่อื่นพอดี เลยไม่มีช่างทำต่อ อีกทั้งตอนนั้นผมก็ว่างงานอยู่พอดี
"แม้จะเรียนจบด้านศิลปะแต่ก็คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ ก็เลยลองทำตามกำลังที่มี ไม่เร่งรีบอะไร ลองไปเรื่อย ก็บ้านของเรานี่ครับ
"ดังนั้นคงสามารถพูดได้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณไก่อูสร้างเองกับมือ" ผมเสริม
"ครับ โดยขอความรู้จากคุณลุงและช่างที่รู้จัก อย่างฝาบ้านนี้ผมได้คำแนะนำจากคนแถวบ้านว่า ถ้าเอาน้ำมันขี้โล้หรือน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วมาทาก็จะช่วยไม่ให้ปลวกขึ้นบ้าน ผมก็เห็นดีด้วยเลยเอามาทาบ้าง ตอนแรกๆที่ทาก็ไหลเยิ้มเต็มแขนเลอะเทอะน่าดู ส่วนกลิ่นก็ใช้ได้เลย ต้องทนดมอยู่สักพักกว่าจะหายเหม็น ประโยคที่พูดดูจะขัดแย้งกับท่าทางที่ดูสนุกของคุณไก่อูเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เล่าให้เราฟัง
"บันไดก็เป็นอีกส่วนในบ้านที่ผมทำเอง โดยไปขอคำแนะนำจากคุณลุงว่าต้องสร้างอย่างไร ต้องคำนวณลูกตั้งบันไดแบบไหน แม้จะไม่เคยทำแต่ก็คิดว่าไม่น่ายากเลยทำเอง
คุณไก่อูพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย คล้ายกับว่าการสร้างบันไดบ้านเป็นงานง่ายๆที่คนทั่วไปทำได้ไม่ยาก พอพูดถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเก่าๆในบ้าน คุณไก่อูเล่าให้เราฟังว่า
"พอสร้างบ้านเสร็จเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่เหลือแล้ว บ้านเลยดูโล่งๆ มีเพียงตู้ไม่กี่ใบเท่านั้นที่ขนมาจากบ้านเก่า ผมเลยเริ่มมองหาเฟอร์นิเจอร์เก่ามาใช้ โดยเริ่มขอซื้อจากบ้านที่เขาจะทิ้งเฟอร์นิเจอร์หรือกำลังรื้อบ้าน เพราะของพวกนี้ราคาไม่แพง และผมชอบงานดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์เก่าๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว "เมื่อก่อนผมรับจ้างเขียนภาพเหมือน ได้ค่าจ้างประมาณรูปละ 400 บาท มีเงินเหลือเท่าไหร่ก็เก็บมาซื้อของเก่าหมด เพราะช่วงนั้นชักเริ่มติดใจ ยอมรับว่าเคยซื้อจนไม่มีเงินเหลือ บางครั้งอยากได้มากจนต้องขอยืมเงินเพื่อนมาซื้อก็มี แต่ตอนนั้นซื้อไปเรื่อยไม่ได้คิดว่าจะเอามาขาย บางครั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมาชำรุดจนใช้งานไม่ได้ แต่ก็ซื้อมาเพราะชอบ และเอามาซ่อมเองจนใช้งานได้ ตอนหลังเลยมีอาชีพรับซ่อมเฟอร์นิเจอร์เก่าอีกอาชีพหนึ่ง
"มารู้ตัวอีกทีก็มีของเก่าพวกนี้อยู่เต็มบ้านแล้ว พอมีคนเห็นว่าเรามีของเก่าเยอะก็มาขอซื้อต่อบ้าง บางคนก็เอาเฟอร์นิเจอร์เก่ามาให้ซ่อม ที่นี่เลยเป็นทั้งบ้านและร้าน ตอนหลังเลยคิดว่าน่าจะแยกเป็นสัดส่วน เลยไปเช่าห้องในตลาดมาทำเป็นร้าน ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลย แต่ที่บ้านก็จะมีลูกค้าและคนที่สนใจอยากชมของเก่าๆแวะเวียนมาดูบ้าง อย่างวันนี้ก็นัดไว้คนหนึ่งครับ
ระหว่างที่เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนานก็มีเสียงเครื่องยนต์ของรถมาหยุดตรงหน้าบ้าน ชายหญิงวัยกลางคนเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีคุ้นเคยกับเจ้าของบ้าน เป็นอันรู้กันว่านี่คงเป็นลูกค้าที่คุณไก่อูพูดถึง เมื่อเจ้าของบ้านขอตัวไปต้อนรับแขกผู้มาใหม่ ผมจึงหันมาช่วยช่างภาพจัดไฟและหามุมถ่ายภาพในห้องนอนเป็นช็อตสุดท้ายก่อนกลับ
ขณะที่คุณไก่อูพาลูกค้าเดินชมของเก่าในบ้าน ประโยคหนึ่งของชายผู้มาเยือนก็แว่วมาให้ได้ยิน เมื่อทั้งคู่เดินผ่านมาใกล้ๆ "อู บ้านนี้มีของเก่าเยอะจังนะ อยู่เข้าไปได้ยังไงเนี่ย? ชอบเหรอ?" ผมนึกในใจว่านี่เป็นคำถามเดียวกับที่ใจผมอยากถาม จึงรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ คุณไก่อูนิ่งคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนยิ้มเขินๆด้วยท่าทีภูมิใจพร้อมกับตอบเสียงดังว่า "ครับ พอได้อยู่ใกล้ของเก่าๆพวกนี้แล้ว ผมรู้สึกมีความสุขมากๆครับ"
เจ้าของ : คุณพยุงศักดิ์ เปลี่ยนเที่ยงธรรม
เรื่อง : ศราวุธ จินตชาติ
ภาพ : ปิยะวุฒิ ศรีสกุล
ออกแบบตกแต่ง :คุณพยุงศักดิ์ เปลี่ยนเที่ยงธรรม