สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

ข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับโค้ก ทั้งใน และต่างประเทศทั่วโลก

สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย ma_cus555 » พุธ ต.ค. 10, 2012 7:34 pm

เสริมสุขปั้นแบรนด์น้ำดำ'เอส' สิ้นสัญญา 1พ.ย.ลุยทั่วประเทศ

ไทยเบฟไฟเขียวเสริมสุขปั้นแบรนด์น้ำดำ ยี่ห้อ 'เอส' est เตรียมส่งม้าเร็วขนสินค้าลงตลาดพร้อมขายทั่วประเทศหลังวันสิ้นสุดสัญญา พร้อมยิงโฆษณา
ในวันที่ 1 พ.ย. 2555 สัญญาการเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่าย เครื่องดื่มน้ำอัดลม “เป๊ปซี่” ของ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ให้กับเป๊ปซี่ โค จากสหรัฐอเมริกา เจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์และเจ้าของหัวเชื้อน้ำอัดลมจะสิ้นสุดลงหลังจากเป็นพันธมิตรร่วมธุรกิจกันมาอย่างยาวนานเกือบ 6 ทศวรรษ หลายฝ่ายกำลังจับตาว่า "เสริมสุข" จะขยายอาณาจักรและเปิดตลาด "น้ำดำ" แข่งกับแบรนด์ระดับโลกต่อไปได้อย่างไร

แหล่งข่าวในวงธุรกิจการค้า เปิดเผย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เสริมสุขได้พัฒนาแบรนด์น้ำอัดลมใหม่ ภายใต้ชื่อ "est" อ่านออกเสียงภาษาไทยว่า "เอส" ซึ่งมาจากคำว่า "เสริมสุข" นั่นเอง โดยเตรียมกระจายสินค้าลงตลาดในทันที หลังสัญญาสิ้นสุดลงในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในทุกด้านตั้งแต่ตัวสินค้าซึ่งจะใช้สีน้ำเงิน แดง ขาว เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และพรีเซนเตอร์ ซึ่งมอบหมายให้ยักษ์ใหญ่แกรมมี่พิจารณาศิลปินที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์สินค้า ที่จะสื่อผ่านคำว่า Cool

"ในคืนรอยต่อของสัญญาสิ้นสุดลง เสริมสุขจะส่งทีมงานไล่วางสินค้า กระจายผ่านช่องทางขายทั่วประเทศ ขึ้นโปสเตอร์โฆษณา เปิดตัวแบรนด์ est ต่อตลาดในทันที" แหล่งข่าวกล่าวพร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า

แม้เสริมสุขจะมีความได้เปรียบในแง่เครือข่ายร้านค้ากว่า 2 แสนแห่งทั่วประเทศเป็นช่องทางขายที่สำคัญ หน่วยรถกว่า 1,200 คันเตรียมพร้อมส่งแบรนด์น้องใหม่ถึงมือลูกค้าเป้าหมาย และผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างกลุ่มไทยเบฟ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี แต่ด้วยความเป็น "แบรนด์ใหม่" ประกอบกับลูกค้าที่ติดในรสชาติและแบรนด์เป๊ปซี่ โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติ และการจำหน่ายผ่านช่องทาง "เอ็กซ์คลูซีฟ" กล่าวคือ กลุ่มร้านอาหาร สถานบันเทิง สวนสนุก ฯลฯ ที่เซ็นสัญญาจำหน่ายแบรนด์เป๊ปซี่อาจมีการทบทวนสัญญาใช้แบรนด์ใหม่ ยิ่งเป็นธุรกิจที่รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและนิยมแบรนด์เป๊ปซี่ เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของเสริมสุขว่าจะรักษาช่องทางดังกล่าวนี้ไว้ได้มากน้อยแค่ไหน

ในทางกลับกัน หากเสริมสุขรักษาตลาดเอ็กซ์คลูซีฟ นำพาแบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ได้ทดลองดื่ม และพึงพอใจในรสชาด จะเป็นโอกาสสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ในวงกว้างต่อไป

เพื่อรองรับการเปลี่ยนครั้งสำคัญที่เกิดขึ้น เสริมสุข ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ จัดทำภาพยนตร์โฆษณาองค์กรครั้งแรก โดยใช้ทีมพนักงานและผู้บริหารร่วมโฆษณา มีการปรับภาพลักษณ์โลโก้ใหม่ ใช้โทนสีฟ้าและเขียว พร้อมวาง 4 โครงสร้างของธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ขยายธุรกิจน้ำดื่มนำโดยน้ำดื่มคริสตัล การขยายเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม การเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ สมชาย บุลสุข ประกาศไว้ว่าจะมีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่ภายหลังวันที่ 2 พ.ย. เป็นต้นไป หลังสัญญาทางธุรกิจกับพันธมิตรรายเดิมสิ้นสุดลงวันที่ 1 พ.ย.นี้ ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ “ฐิติวุฒิ์ บุลสุข” กุมบังเหียนเสริมสุขในยุคที่ 3 นี้อย่างเต็มตัว

เสริมสุข ยังได้จัดตั้งบริษัท เกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด จำกัด ที่ฮ่องกง เมื่อ 1 มิ.ย. 2555 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านเหรียญฮ่องกง เพื่อบริหารแบรนด์ภายใต้บริษัทเสริมสุขทั่วโลก สะท้อนก้าวรุกต่อแผนสร้างตำนาน "แบรนด์ไทย" ครั้งใหม่พ่วงไปกับเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งของไทยเบฟในภูมิภาคอาเซียน

สมรภูมิการแข่งขันธุรกิจน้ำดำจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทั้งเสริมสุข และเป๊ปซี่ โค ต่างมีโจทย์ใหญ่ต้องแก้เกมด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่เบอร์ 2 ในตลาดเมืองไทย โคคา-โคล่า หรือ โค้ก แบรนด์อันดับหนึ่งของโลก รวมทั้งน้องใหม่ บิ๊กโคล่า น่าจะได้อานิสงส์จากห้วงสุญญากาศ และ "จุดอ่อน" ของผู้ประกอบการทั้ง 2 รายนี้ไม่มากก็น้อย

ยิ่งช่วงแรกที่ "เป๊ปซี่" ยังไม่ตกผลึกในเรื่องของ "ผู้ผลิต" น่าจะมีเพียงการจำหน่ายในรูปแบบ "กระป๋อง" นำเข้าจากโรงงานในแถบประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่เสริมสุขส่ง est ลงตลาดได้ครอบคลุมพื้นที่ โอกาสที่เป๊ปซี่จะถูกเฉือนส่วนแบ่งการตลาดไปมีมากที่เดียว หากพิจารณาส่วนแบ่งการตลาดน้ำอัดลมประเทศไทยมูลค่าประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาทในปัจจุบันทิ้งห่างกันไม่มากนัก ระหว่างแบรนด์เป๊ปซี่ มีส่วนแบ่งการตลาด 29% ตามด้วย โคคา-โคลา 24% และบิ๊กโคล่า 14%

เครดิต : http://www.bangkokbiznews.com
แก้ไขล่าสุดโดย ma_cus555 เมื่อ พุธ ต.ค. 10, 2012 7:37 pm, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
MacusRocK
ภาพประจำตัวสมาชิก
ma_cus555
 
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 17, 2010 1:13 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่กำลังจะระอุ (โค้ก, เป๊บซี่, บิ๊กโคล่

โพสต์โดย ma_cus555 » พุธ ต.ค. 10, 2012 7:36 pm

'บิ๊กโคล่า'ลั่น5ปีขึ้นเบอร์2น้ำดำ อัด3พันล้านเปิด รง.เบียร์

"บิ๊กโคล่า" ดันไทยฐานผลิตเอเชีย ทุ่ม 1,500 ล้าน ขยายกำลังผลิตเพิ่ม 25% หวังขึ้นเบอร์ 2 น้ำดำใน 5 ปี วาง 3 พันล้านเล็งตั้งโรงงานเบียร์

สมรภูมิการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ผู้เล่นรายใหญ่ 'เป๊ปซี่' อยู่ในช่วง 'หัวเลี้ยวหัวต่อ' เป็นจังหวะสำคัญต่อการเปิดเกมรุกของ "บิ๊กโคล่า" แบรนด์อันดับ 4 ในตลาดโลก กับตำแหน่ง "เบอร์ 3" ในเมืองไทย หลังก้าวสู่ตลาดได้เพียง 6 ปี ส่วนแบ่งการตลาดไต่ระดับพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 13.2% ปีที่ผ่านมา ทะยานสู่ 16.6% ในสิ้นปี 2555 นี้ พร้อมก้าวสู่เป้าหมาย 'เบอร์ 2' ภายใน 5 ปีข้างหน้า

นายเฮอร์นัน คอโดวา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาเจไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม "บิ๊กโคล่า" เปิดเผยว่า การขยายฐานธุรกิจของบริษัทแม่อาเจ กรุ๊ป ประเทศเปรู จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และเป็นต้นแบบ (โมเดล) การดำเนินธุรกิจแห่งภูมิภาค นอกเหนือจากแบรนด์หลัก "บิ๊กโคล่า" แล้ว อาเจ กรุ๊ป ยังมีสินค้าในเครือ 10-15 แบรนด์ รวม 20-25 เอสเคยู ประกอบด้วย น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเกลือแร่ รวมทั้งเบียร์ จะมีการเข้าทำตลาดในอนาคตรองรับอัตราการบริโภคที่เพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะเครื่องดื่มน้ำอัดลมขยายตัวเฉลี่ย 5-7% และบิ๊กโคล่ามีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โรงงานผลิตน้ำอัดลมบิ๊กโคล่า ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ จ.ชลบุรี มีกำลังผลิตกว่า 2 ล้านขวดต่อวันนั้นถูกใช้เต็มกำลังการผลิตแล้ว บริษัทได้เตรียมงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาทขยายโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาในภาคเหนือหรืออีสาน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 25% ส่วนหนึ่งรองรับการส่งออกไปยังประเทศลาว เมียนมาร์ มาเลเซีย และกัมพูชา คาดจะสรุปทำเลที่ตั้งได้ภายใน 2-3 เดือนนี้

บริษัทวางเป้าหมายผลักดันแบรนด์บิ๊กโคล่าก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาดน้ำดำ ภายใน 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 20-25% ในเวลานั้น ซึ่งจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด 16.6% จะขยับเพิ่มเป็น 18-19% ในปีหน้า โดยสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา

"น้ำดำน้องใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดเป็นแบรนด์ที่ 4 ทุกคนก็รอดูอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร สำหรับบิ๊กโคล่า เราไม่กลัว ซึ่งที่ผ่านมาตลาดน้ำอัดลมไทยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตลาดย่อมเปิดโอกาสสำหรับใครก็ตามที่เข้ามาและทำตลาดได้ก็มีโอกาสแน่นอน" นายเฮอร์นัน กล่าว

ทั้งนี้บิ๊กโคล่ามีความได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่เน้นลงทุนและทำตลาดเอง ตั้งแต่การผลิต กระจายสินค้า บริหารจัดการในทุกกระบวนการ มากกว่าที่จะร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า และขับเคลื่อนธุรกิจสอดรับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการสร้างโปรดักท์ที่มีการปรับสูตรสอดรับกับผู้บริโภคชาวไทยที่นิยมความหวานและซ่า ซึ่งภายใต้มาตรฐานเดียวกับคู่แข่งแต่แบรนด์บิ๊กโคล่ามีราคาต่ำกว่าเป็นจุดขายทำให้แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว

เล็งตั้งโรงงานเบียร์
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมความพร้อมในการตั้งโรงงานผลิตเบียร์ในประเทศไทย คาดใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายในปี 2558 ซึ่งธุรกิจเบียร์ถือเป็นธุรกิจใหม่ต่อจากเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ของอาเจ กรุ๊ป เปิดตัวทำตลาดเมื่อปี 2550 มีโรงงานผลิตแห่งแรกที่เปรู ใช้เป็นฐานส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียง อาทิ เม็กซิโก เอกวาดอร์ โคลัมเบีย อเมริกา ที่ไมอามี และนิวยอร์ก และ สเปน โดยใช้แบรนด์ "ฟรังก้า "(Franca) เป็นแบรนด์ทำตลาด ปัจจุบันยอดการจำหน่ายเบียร์คิดเป็นสัดส่วน 5% ของรายได้บิ๊กโคล่าทั่วโลก

สำหรับพอร์ตเบียร์มี 4 แบรนด์ด้วยกัน ได้แก่ ฟรังก้า (Franca) คลับ (Club) ทรีส ครูซีส (Tres cruces) และ คาเรล (Caral) โดย 2 แบรนด์แรกจัดอยู่ในเซ็กเมนท์เบียร์ อีโคโนมี เทียบกับแบรนด์ช้างและสิงห์ในประเทศไทย ขณะที่อีก 2 แบรนด์หลังจัดอยู่ในระดับพรีเมียม โดยแบรนด์ที่ถือเป็นไฮไลต์ที่สุด คือ ฟรังก้า หากรวมทั้ง 4 แบรนด์ถือเป็นอันดับ 2 ในตลาดเปรู

"การตัดสินใจเรื่องการดำเนินธุรกิจเบียร์ในไทยยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่จุดเด่นของเราคือเรื่องของรสชาติ สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่นิยมทดลองรสชาติใหม่ๆ หากจะรุกตลาดเบียร์จริงจังต้องมาตั้งโรงงาน ไม่ใช่การนำเข้ามา เนื่องจากอัตราภาษีค่อนข้างสูง หากตัดสินใจคงไม่เกิดในระยะเวลาอันใกล้นี้แน่นอน" นายเฮอร์นัน กล่าว

ล่าสุด บริษัทใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียให้สามารถรองรับการบำบัดได้มากกว่ากำลังการผลิตปัจจุบัน 40% พร้อมวางแผนพัฒนาระบบการผลิตและบำบัดน้ำเสียภายใต้เป้าหมาย "กรีน แฟคตอรี่" ภายในปี 2556 อีกด้วย

สำหรับแผนธุรกิจในปีหน้า บริษัทยังเดินกลยุทธ์เชิงรุกภายใต้ยุทธศาสตร์ “คุณภาพสูง ราคาต่ำ” (High quality - Low price) มุ่งรุกขยายตลาดเครื่องดื่ม 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มน้ำดื่มภายใต้แบรนด์ "เซียโร่" กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ แบรนด์ "สปอเรด" และชาพร้อมดื่มแบรนด์ "คูลที" ตามนโยบายทั่วโลก

อาเจ กรุ๊ป ก้าวขึ้นเป็น "อันดับ 10" บริษัทเครื่องดื่มซอฟต์ดริ๊งค์ระดับโลกในแง่ของวอลุ่มด้วยส่วนแบ่งการตลาด 0.5% จากการจัดตั้งบริษัทเพียง 24 ปีเท่านั้น โดยมีโคคา-โคลาเป็นอันดับ 1 ที่ ส่วนแบ่งการตลาด 23.1% เป๊ปซี่ โค อันดับ 2 มีส่วนแบ่งการตลาด 10.7% ขณะที่แบรนด์ "บิ๊กโคล่า" หัวหอกหลักของอาเจ กรุ๊ป เป็นอันดับ 4 ในตลาดน้ำดำของโลก การเข้าไปทำตลาดในหลายประเทศ บิ๊กโคล่า มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 อาทิ เปรู เอกวาดอร์ โคลัมเบีย และอินโดนีเซีย

ปัจจุบัน อาเจ กรุ๊ป มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากกลุ่มน้ำอัดลม 30% น้ำไม่อัดลม 65% อีก 5% มาจากเบียร์ ซึ่งรายได้ทั่วโลก อยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เครดิต : http://www.bangkokbiznews.com
MacusRocK
ภาพประจำตัวสมาชิก
ma_cus555
 
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 17, 2010 1:13 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่กำลังจะระอุ (โค้ก, เป๊บซี่, บิ๊กโคล่

โพสต์โดย ma_cus555 » พุธ ต.ค. 10, 2012 7:39 pm

เป๊ปซี่ ส่งสัญญาณ ลุยน้ำดำเต็มสูบ ไม่หวั่นคู่แข่ง"บล็อก"ตลาด

เป๊ปซี่ ส่งสัญญาณเดินเครื่องธุรกิจลุยตลาดน้ำดำในไทยเต็มสูบ ไม่หวันคู่แข่ง "บล็อก" ตลาด
ประกาศทุ่มทุนสร้าง 2 โรงงานใหญ่เครื่องดื่ม-ขนมขบเคี้ยวสู้ศึก เตรียมสร้างปรากฏการณ์น้ำดำ โค้งสุดท้าย หลังซุ่มเงียบนานนับเดือน หลังเตรียมการด้านสื่อประชาสัมพันธ์ และความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในมือ

สถานการณ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้งสุดท้ายเพิ่มสีสันขึ้นอีกระลอก หลังจากค่ายยักษ์ใหญ่ "เป๊ปซี่" เริ่มเปิดเผยเป้าหมายการดำเนินธุรกิจครั้งใหม่หลัง 1 พฤศจิกายน นี้ ด้วยประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการวานนี้ (4ต.ค.) ระบุว่า เป๊ปซี่โค อิงค์ บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก ประกาศเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยด้วยการตั้งโรงงานใหม่ 2 แห่ง โรงงานสำหรับการผลิตเครื่องดื่ม "เป๊ปซี่" และโรงงานผลิตขนมขบเคี้ยว และเป็นการลงทุนต่อเนื่องหลังจากที่ได้เข้าลงทุนมาเมื่อปีพ.ศ. 2543 ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า กว่า 9,000 ล้านบาท หรือราว 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ภายใต้คำประกาศ ดังกล่าว โดยนายจา-กรูท โคเตชา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ภายใต้การนำของเป๊ปซี่โค อิงค์ ระบุว่า โรงงานแห่งใหม่ จะเป็นการการลงทุนครั้งใหญ่สำหรับการตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งแรกของเป๊ปซี่ในประเทศไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง ที่มีความพร้อมด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงและสามารถลดปริมาณการใช้น้ำและพลังงาน

สำหรับในธุรกิจอาหาร เป๊ปซี่โคได้เริ่มเปิดตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2538 โดยผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ทั้งในระดับโลกและท้องถิ่น อาทิ เลย์ ตะวัน ซันไบทส์ ทวิสตี้ โดริโทส รวมถึงข้าวโอ๊ตเควกเกอร์ พร้อมกับการลงทุนที่ต่อเนื่อง สำหรับการขยายกำลังการผลิตในส่วนโรงงานผลิตขนมในจังหวัดลำพูน ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 45,000 ตันต่อปี รวมทั้งการก่อตั้งศูนย์กระจายสินค้าอีก 5 แห่งทั่วประเทศ

นางสาวมุกดา ไพรัชเวทย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ตลาดขนมที่มีอัตราการเติบโตและขยายตัวต่อเนื่องทุกปีไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ทำให้บริษัทต้องเร่งขยายกำลังการผลิต ซึ่งล่าสุดได้ลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่สองขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ในจังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเปิดเกม "บล็อก" ตลาด

อย่างไรก็ตาม คำประกาศการลงสนามของ "เป๊ปซี่" ครั้งนี้ถือเป็นคำประกาศเจตนาในการสานต่อธุรกิจน้ำดำในเมืองไทย แม้ขณะนี้จะต้องเผชิญกับกลยุทธ์การ "บล็อก" ตลาดและช่องทางจำหน่ายของคู่แข่งขันอย่าง "โค้ก" ที่ได้เริ่มเปิดยุทธการนี้แบบรุกเร็วเพื่อกวาดร้านค้ารายใหม่ เกมการบล็อกตลาดของโค้ก คือการเร่งขยายช่องทางจำหน่าย เบียด เป๊ปซี่ ให้ได้มากที่สุด จากเครือข่ายร้านค้าของเป๊ปซี่ที่ถือเป็นช่องทางธุรกิจที่สำคัญและทำรายได้กลุ่มใหญ่ของเป๊ปซี่ตลอดระยะเวลานานหลายสิบปี

กลยุทธ์ของโค้กในเวลานี้คือการ เชื้อเชิญให้ร้านค้า ร้านอาหารเข้าร่วมโครงการ ด้วยแผนการขายครบสูตร ลดแลกแจกแถม และการชิงโชค พร้อมกับแผนการยกระดับร้านค้าหน้าใหม่ที่จะเข้ามาเป็นร้านค้าจัดจำหน่ายโค้กให้เป็นร้านค้ากลุ่มพิเศษ

เทรดโปรโมชั่น ของโค้ก ในขณะนี้ คือการมุ่งกระจายสินค้าเครื่องดื่มโค้ก ภายใต้กลยุทธ์ "ไซส์ซิ่ง" ของโค้ก คือ ขนาดบรรจุ 16 ออนซ์ขวดแก้ว ซึ่งเหมาะกับร้านค้า ระบุสัญญาการซื้อขายแบบซื้อ 1 แถม 1 และยังเสริมความแรงด้วย กลยุทธ์เทรดโปรโมชั่นลุ้นทองและเงินสด

ไม่เพียงแต่ "โค้ก" ยังมี เครื่องดื่มแบรนด์ใหม่ ของค่ายเสริมสุข ที่เตรียมความพร้อม สำหรับการเปิดเครื่องดื่มตัวใหม่ เพื่อส่งมอบให้กับร้านค้า ที่มีเครือข่ายครอบคลุมกว่า 2 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ยังไม่รวม แบรนด์ บิ๊กโคล่า ที่กำลังเดินกลยุทธ์ให้เอเยนต์เป็นผู้เปิดเกมบล็อกตลาด ด้วยฐานธุรกิจที่แข็งแรงในสมรภูมิภูธร

สำหรับคำประกาศของ"เป๊ปซี่" ที่ยังเชื่อมั่นว่า ผู้บริโภคเมืองไทยยังมีแบรนด์รอยัลตี้ หรือ ความภักดีต่อแบรนด์ อย่างเหนี่ยวแน่นนั้น จากนี้ไปจนปิดไตรมาสสุดท้าย จะได้เห็นความเคลื่อนไหวของส่วนแบ่งการตลาดของทั้งโค้ก เป๊ปซี่ บิ๊กโคล่า และ เครื่องดื่มแบรนด์ใหม่ของค่ายเสริมสุข ซึ่งจะเป็นการส่งท้ายปีทีของตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเครื่องดื่มตลาดเมืองไทย ตลาดเครื่องดื่มที่มีเดิมพันสูงด้วยมูลค่าธุรกิจและมูลค่าตลาดมากกว่า 36,000 ล้านบาท ที่จะมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

เครดิต : http://www.bangkokbiznews.com
MacusRocK
ภาพประจำตัวสมาชิก
ma_cus555
 
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 17, 2010 1:13 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่กำลังจะระอุ (โค้ก, เป๊บซี่, บิ๊กโคล่

โพสต์โดย ma_cus555 » พุธ ต.ค. 10, 2012 7:41 pm

'โค้ก'จ่อขึ้นผู้นำรอบ50ปี

จับตาจุดเปลี่ยนเครื่องดื่ม"น้ำดำ"เมืองไทยรอบครึ่งศตวรรษ รอยต่อ"เป๊ปซี่ -โค้ก" หลังเสริมสุขยกเลิกส่งสินค้าสัปดาห์สุดท้ายก่อนหมดสัญญา 1พ.ย.

รอยต่อแห่งการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทน้ำดำ ระหว่าง"เสริมสุข" ที่เตรียมส่งแบรนด์ใหม่"est" ลงตลาด ขณะที่ "เป๊ปซี่ โค"ยังไม่ชัดเจนว่าจะแก้ไขปัญหาฐานการผลิต "เป๊ปซี่"รองรับความต้องการเทียบเท่าของเดิมที่เสริมสุขเคยป้อนตลาดอยู่ประมาณ 15 ล้านขวดต่อวันได้อย่างไร เป็นโอกาสครั้งสำคัญของแบรนด์คู่แข่งตลอดกาลอย่าง "โค้ก" ที่จะโค่นบัลลังก์"เป๊ปซี่" พลิกสถานะเบอร์รองก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดชั่วข้ามคืน หลังจากรอคอยมานานกว่า 50 ปี

ด้านเบอร์ 3"บิ๊กโคล่า" มั่นใจเช่นกันว่าจะขยับสถานะเป็นอันดับ 2 ได้ไม่ยาก วางเป้าหมายภายใน 5 ปีจะก้าวสู่เบอร์ 2 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 20-25% ฉะนั้นส่วนแบ่งที่เหลือ 75-80% จะถูกกระจายใน 3 ผู้เล่นหลัก โค้ก เป๊ปซี่ และ est แต่ใครจะเก็บเกี่ยวส่วนแบ่งตลาดได้มากที่สุด แน่นอนว่านาทีนี้ "โค้ก" ได้เปรียบมาก หากพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาดปัจจุบันในแง่แบรนด์น้ำดำ เป๊ปซี่ มีส่วนแบ่ง 29% โค้ก 24% และบิ๊กโคล่า 16.6% จะเห็นว่า "ห่างกันเพียงเล็กน้อย"

แต่ในแง่"คอร์ปอเรท แชร์" โคคา-โคลา ที่มีโค้ก แฟนต้า และสไปร์ท อยู่ในพอร์ต ส่วนแบ่งตลาดขยับเพิ่มขึ้นเป็น 54% จากปีก่อนมีส่วนแบ่งอยู่ 50.7% เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่ท้าทายเป๊ปซี่อย่างมากจะรักษาแชมป์ตลาดเมืองไทยไว้ได้อย่างไร

"เป๊ปซี่"แจ้งลูกค้าสินค้าหายจากตลาด8เดือน
หลังสิ้นสุดสัญญาระหว่างบริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) กับเป๊ปซี่ -โค วันที่ 1 พ.ย.2555 การผลิตและจำหน่ายร่วมกัน แหล่งข่าวในวงการการค้า กล่าวว่าเสริมสุขได้เริ่มปรับลดกำลังการผลิตเป๊ปซี่ลงแล้ว ในส่วนของเครื่องดื่มในรูปกระป๋อง และแบบตู้กด โดยผู้ค้ารายย่อยในช่องทางขายแบบดั้งเดิมหรือร้านโชห่วย ระบุว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เสริมสุขว่าตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป จะไม่ส่งเป๊ปซี่ และจะเก็บขวดแก้วคืนทั้งหมด ขณะเดียวกันเริ่มเคลียร์สต็อกด้วยการจัดโปรโมชั่น ขนาด 1.25 ลิตร ซื้อ 40 ลังแถม 5 ลัง

ฟาก เป๊ปซี่ โค เริ่มเดินสายชี้แจงลูกค้ารายใหญ่ อาทิ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหารภัตตาคาร ช่องทางโมเดิร์นเทรดต่างๆ ว่าจะไม่สามารถป้อนสินค้าได้อย่างสมบูรณ์ เป็นเวลาอย่างน้อย 8 เดือน เริ่มตั้งแต่หลัง 1พ.ย.2555 ไปจนถึงเดือนมิ.ย.2556 คาดว่าจะวางตลาดผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่ได้ 100% อีกครั้งเดือน มิ.ย.2556 ขณะเดียวกันจะส่งเป๊ปซี่ขวด PET เข้ามาจำหน่ายแทน

ด้านสายส่งของโค้กได้ใช้จังหวะนี้ ติดต่อร้านโชห่วยให้เพิ่มยอดซื้อ “โค้ก” พร้อมเดินสายเจรจาคู่ค้าในช่องทางจำหน่ายต่างๆ ขณะที่ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย เริ่มเรียกโค้ก เข้าหารือพร้อมเปลี่ยนแผนใช้บริการโค้กแทนเป๊ปซี่บ้างแล้ว ทำให้โค้กอยู่ในสภาวะเนื้อหอมไปโดยปริยาย แถมมีอำนาจต่อรองมากขึ้นจาก"ดีมานด์"ที่เพิ่มขึ้น

เกมน้ำดำรอบนี้ไม่ง่ายนักสำหรับแบรนด์น้องใหม่ est แม้จะเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ เครือข่ายโลจิสติกส์ และความได้เปรียบของช่องทางร้านค้ากว่า 2 แสนรายทั่วประเทศ แต่ด้วยเหตุที่ "ชื่อไม่คุ้น" คนไทยยังติดปากแค่เป๊ปซี่กับโค้ก ถึงคราเป๊ปซี่จะ "เสียแชมป์"และโค้กจะผงาดขึ้นเบอร์ 1 น้ำดำเมืองไทยได้ไม่ยาก

โค้กเตรียมพร้อมธุรกิจระยะยาว
นายธิติ ตวงสิทธิตานนท์ ผู้จัดการการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์โคคา-โคลา บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่าโค้กทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีการเตรียมความพร้อมในการวางแผนธุรกิจ ในระยะยาวมาโดยตลอด เพราะตลาดเครื่องดื่ม (ปราศจากแอลกอฮอล์) ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลมหรือไม่อัดลมก็มีการแข่งขันกันสูง มีผลิตภัณฑ์ใหม่แบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดอยู่เสมอ

การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง นับเป็นความเคลื่อนไหวของตลาดตามปกติ และไม่ได้กระทบต่อการวางแผนธุรกิจระยะยาวของเรา เชื่อมั่นว่าการที่เรามีผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งกับลูกค้าร้านค้าและผู้บริโภค จะทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ยังคงตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ได้ต่อไป

ค้าปลีกตุนสต็อก 'เป๊ปซี่'
แหล่งข่าวจากค้าปลีกรายใหญ่ กล่าวว่าได้มีการวางแผนธุรกิจร่วมกับบริษัทเครื่องดื่มเสริมสุข โดยเพิ่มปริมาณซื้อเป๊ปซี่มากขึ้นเพื่อเป็นสต็อกเพียงพอรองรับการจำหน่ายได้มากกว่า 1 เดือน โดยเสริมสุขจะมีรอบการส่งสินค้าให้วันที่ 28 ต.ค.นี้ จะเป็นวันสุดท้าย ในเบื้องต้นนี้ เสริมสุขพร้อมนำแบรนด์ใหม่วางจำหน่ายในคืนสิ้นสุดสัญญาวันที่ 1 พ.ย.ในทันที

ด้าน เป๊ปซี่ โค พนักงานขายแจ้งแล้วว่า จะมีผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่จำหน่าย แต่ไม่ระบุชัดว่ามากหรือน้อยอย่างไร ที่แน่นอน คือ เป๊ปซี่จะไม่มีการจัดรายการส่งเสริมการขาย เพราะเสี่ยงต่อการไม่มีสินค้าป้อนตลาด การทำส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการซื้อจะทำให้ลูกค้าเพิ่มอัตราการซื้อสูงขึ้นในช่วงนั้นๆ

ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้เป๊ปซี่ภายใต้การผลิตและจำหน่ายของเสริมสุขค่อนข้างมีปัญหา สินค้าไม่พร้อมจำหน่ายมากนักในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาทำให้พื้นที่จำหน่ายบนชั้นวางสินค้าจากเดิมมีขนาดเท่าๆ กัน แต่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่ามา พอร์ตสินค้าของโค้กใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นอกจากแบรนด์โค้กแล้วยังมีเครื่องดื่มน้ำอัดลมแฟนต้า และเครื่องดื่มกลุ่มนอน-คาร์บอเนต อาทิ มินิเมท ฯลฯ วางจำหน่ายเทียบค่ายเป๊ปซี่ มีแบรนด์หลัก คือน้ำดื่มคริสตัล เท่านั้น

"ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่ ค่อนข้างมีปัญหา ชั้นจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมต่อด้วยน้ำผลไม้ หากมองพอร์ตธุรกิจแน่นอนว่าโค้กย่อมใหญ่กว่า หลังสิ้นสุดสัญญา 1 พ.ย.นี้ไม่ใช่ปัญหาในเรื่องของพื้นที่ขายซึ่งผู้ค้าปลีกมีสินค้าพร้อมวางอยู่แล้ว และเชื่อว่าจะไม่มีผลต่อลูกค้ามากนัก เพราะหากกรณีไม่มีเป๊ปซี่จำหน่ายเหมือนกันหมด" แหล่งข่าวกล่าว และว่าขณะที่แบรนด์รองอย่าง "บิ๊ก โคล่า" เริ่มทำการตลาดร่วมกับผู้ค้าปลีกมากขึ้น เช่น ให้คูปองส่วนลด จากปกติจะมุ่งทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์เป็นหลักมากกว่า

โอกาส"โค้ก"ขึ้นแชมป์ชั่วข้ามคืน
นายชนินทร์ เทียนเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออพติมัส พลัส จำกัด ที่ปรึกษาการตลาดและสร้างแบรนด์ กล่าวว่า โค้กได้เปรียบสูงในการทำตลาดหลังวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพราะเป๊ปซี่จะไม่มีขวดแก้วจำหน่าย และระบบสายส่งที่เคยเป็นพันธมิตรกับเสริมสุขอาจสะดุด

ตลาดในช่วงประมาณ 1 ปีข้างหน้า อันดับ 1 จะเป็นโค้ก เพราะเป็นสินค้าที่สามารถทดแทนกับเป๊ปซี่ได้ ส่วนอันดับ 2 ในตลาดจะเป็น 'บิ๊กโคล่า' ซึ่งปัจจุบันเป็นอันดับ 1 ในขวด PET อยู่แล้ว แต่ในอันดับ 2 นี้อาจถูกแบรนด์ใหม่ของเสริมสุขตีตลาดจากระบบสายส่งที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะในช่องทางจำหน่ายแบบดั้งเดิม (Traditional Trade)

“คืนวันที่ 1 พ.ย.จะมีความเปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืนสำหรับตลาดน้ำอัดลมบ้านเรา จากที่เคยมีเป๊ปซี่เป็นอันดับ 1 มาตลอดกว่า 50 ปี กลายเป็นเป๊ปซี่เป็นเบอร์รอง และอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปีที่จะกลับเข้ามาเมื่อเป๊ปซี่มีกำลังการผลิตและสายส่งที่แข็งแรง” นายชนินทร์กล่าว

ที่ผ่านมาเป๊ปซี่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์จนเป็นที่จดจำ และคุ้นเคยสำหรับคนไทย เมื่อประกอบกับการมีช่องทางการจำหน่ายที่เข้มแข็ง เป๊ปซี่จึงครองตลาดมาโดยตลอด เมื่อส่วนของ 'ช่องทาง' ขาดหายไปจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเป๊ปซี่

เสนอเงื่อนไขขายโค้กแทนเป๊ปซี่
จากการสำรวจตลาดของ"กรุงเทพธุรกิจ" พบว่า แบรนด์ "โค้ก" ได้เปิดเกมรุกหนักด้วยแผนสื่อสารกับ "คู่ค้า" ว่าวันนี้ คุณมี 2 ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจ ผู้บริโภคโค้ก และ ผู้บริโภคเป๊ปซี่

ตามด้วยการสื่อให้เห็นถึงสถานการณ์ตลาดตั้งแต่ 1 พ.ย.2555 เป็นต้นไป ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ?

NO ไม่มี เป๊ปซี่ ขวดแก้ว+เสริมสุข

YES มีเสริมสุขขวดแก้ว...ยี่ห้อ?? รสชาติ?? แต่ผู้บริโภคไม่รู้จัก

แล้วผู้บริโภคจะดื่มอะไร...เมื่อเป๊ปซี่หายไป

ความต้องการโค้กเพิ่ม...ความต้องการขวด-ลัง เพิ่ม

ตบท้ายด้วยคำถามอีกว่า พี่มีขวด-ลังพร้อมรึยัง ลองนึกถึงเหตุการณ์ตอนน้ำท่วม!!

โค้กยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับโค้ก 15 ออนซ์ หลากหลายเงื่อนไข อาทิ ขายก่อน จ่ายทีหลัง รับกำไรเพิ่มทันที ทุกลังที่ขาย ทุก 50 ลัง คืนกำไรเพิ่มอีก 1,000 บาท จัดเข้ากลุ่มลูกค้ารายสำคัญเพื่อการจัดส่งสินค้าในช่วงการขายสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังให้ลุ้นรับรางวัลเงินสดและทองคำกว่า 6 ล้านบาท สำหรับร้านค้าที่เซ็นสัญญาเพิ่มสต็อกวันนี้เท่านั้น รับคูปอง 1 ใบ เมื่อมัดจำขวดโค้ก 15 ออนซ์ ทุกๆ 10 ลัง เพื่อชิงรางวัลทองคำหรือเงินสด กว่า 6 ล้านบาท

นับเป็นปฏิบัติการเชิงรุกของโค้ก ซึ่งยังเตรียมที่จะประกาศความร่วมมือขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับพันธมิตรไทยน้ำทิพย์ และหาดทิพย์ ในช่วงประมาณวันที่ 19 ต.ค.นี้

เครดิต : http://www.bangkokbiznews.com ^+ ^+ ^+
MacusRocK
ภาพประจำตัวสมาชิก
ma_cus555
 
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 17, 2010 1:13 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย august9 » พฤหัสฯ. ต.ค. 11, 2012 3:43 pm

เป็บซี่ จะ ไม่มีแล้ว เตรียมเก็บได้เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
august9
THE REAL THING
THE REAL THING
 
โพสต์: 356
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 04, 2012 11:57 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย jead » พฤหัสฯ. ต.ค. 11, 2012 8:37 pm

ยังมีครับแต่เปลี่ยน บริษัทบริหาร
กิตติศักดิ์ วงศ์พุทธรังสี (จืด) โทร. 084-148-1547
ธ.กรุงเทพ 235-069-5835 ธ.ไทยพาณิชย์ 237-204-7269
ธ.กสิกรไทย 662-202-3383
jead
THE REAL THING
THE REAL THING
 
โพสต์: 2458
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2009 8:36 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย ma_cus555 » พฤหัสฯ. ต.ค. 11, 2012 10:38 pm

august9 เขียน:เป็บซี่ จะ ไม่มีแล้ว เตรียมเก็บได้เลย



ขวดรีเทิร์นของเป๊ปซี่ที่มีชื่อบริษัทเสริมสุข จะไม่มีอีกแล้วเก็บกันให้ดีหล่ะ เพราะเสริมสุขจะเอาไปทำลายทั้งหมดหลัง พย. ^+
MacusRocK
ภาพประจำตัวสมาชิก
ma_cus555
 
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 17, 2010 1:13 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย EAK » ศุกร์ ต.ค. 19, 2012 10:03 pm

บริษัทโฆษณา...เตรียมรับทรัพย์.....เอสโคล่า ทุ่มเต็มที่แหง
รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
EAK
THE REAL THING
THE REAL THING
 
โพสต์: 2041
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2009 10:18 am

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย jead » ศุกร์ ต.ค. 19, 2012 10:50 pm

วันนี้เห็นปล่อยโฆษณาออกมาแล้วครับ
กิตติศักดิ์ วงศ์พุทธรังสี (จืด) โทร. 084-148-1547
ธ.กรุงเทพ 235-069-5835 ธ.ไทยพาณิชย์ 237-204-7269
ธ.กสิกรไทย 662-202-3383
jead
THE REAL THING
THE REAL THING
 
โพสต์: 2458
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2009 8:36 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย ma_cus555 » เสาร์ ต.ค. 20, 2012 1:09 pm

jead เขียน:วันนี้เห็นปล่อยโฆษณาออกมาแล้วครับ



เห็นแล้วเหมือนกันครับ. เหมือนโลโก้จะมี 3 สี
MacusRocK
ภาพประจำตัวสมาชิก
ma_cus555
 
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 17, 2010 1:13 pm

Re: สงครามน้ำดำครั้งใหม่ (โค้ก เป๊บซี่ บิ๊กโคล่า เอสโคล่า)

โพสต์โดย livercoke » พฤหัสฯ. ต.ค. 25, 2012 12:26 pm

ถ้า เอส โคล่า มารุกตลาด แล้วเจาะแบบกระป๋อง ออกลายมันส์ๆ รับรองโกยแน่ๆ
อย่างน้อยคนรักกระป๋อง ก็ต้องตามเก็บกันแน่ๆ
ถ้าออกมาเป็บแบบเซท 6 ใบขึ้น รับรองกระจายแน่ๆ เพราะแบรนด์ใหม่ออกมา คนรักกระป๋องตามเก็บแน่ โดยเฉพาะทำออกเป็นลายของคนไทย ^+
ภาพประจำตัวสมาชิก
livercoke
THE REAL THING
THE REAL THING
 
โพสต์: 2588
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 20, 2009 12:59 am


ย้อนกลับไปยัง COKE NEWS

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน

cron