โค้กซีโร่ กร้าวยึดแชร์น้ำดำไร้น้ำตาล

[o_PAO]

วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3971 (3171)

"โค้กซีโร่"กร้าวยึดแชร์น้ำดำไร้น้ำตาล ปูพรมโฆษณาดิสเครดิต"เป๊ปซี่แม็กซ์"

สองยักษ์น้ำอัดลม "โค้ก-เป๊ปซี่" เปิดศึกน้ำดำไร้น้ำตาล ล่าสุด "โค้ก ซีโร่" เล่นแรง อัดโฆษณาเชิงเปรียบเทียบ ดิสเครดิต
"เป๊ปซี่ แม็กซ์" หลังจากเป๊ปซี่ทุ่มงบฯรีลอนช์ ด้วยการปรับดีไซน์-โทนสี มาใช้สีดำ ด้านโค้กเสียงแข็งไม่ได้คิดบลัฟคู่แข่งตัวฉกาจ
ยืนกรานเน้นตอกย้ำรสชาติของโค้กแท้ๆ ยันครองส่วนแบ่งตลาดแล้ว 60% คนโฆษณาชี้เป็นเกมป้องกันมาร์เก็ตแชร์ตัวเอง


เล่นแรง - โฆษณาเชิงเปรียบเทียบที่ค่ายโค้ก วีโร่ งัดออกมาถล่มเป๊ปซี่ แม็กซ์ หลังจากที่ฝ่ายหลังได้รีลอนซ์สินค้าครั้งใหญ่
และหันมาใช้แพ็กเกจจิ้งที่ออกโทนสีดำ พร้อมกับใช้ตัวกิ้งก่า กำลังเปลียนสีเป็นตัวสื่อ ซึ่งโค้กยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบลัฟคู่แข่ง
แต่เป็นการย้ำจุดยืนในแง่ของรสชาติและน้ำตาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากความนิยมในเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทไร้น้ำตาล หรือ 0 แคลอรีที่มีมากขึ้น อันเป็นผลมาจากกระแสสุขภาพในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ทำให้ค่ายน้ำดำต่างเร่งปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับกระแสที่เกิดขึ้น เป็นชนวนให้ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่น้ำอัดลมลุกขึ้นมาแข่งขันกันอย่างร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี

โดยก่อนหน้านี้ค่ายโคคา-โคลา เปิดตัวโค้ก ซีโร่ เข้าสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อช่วงหน้าร้อนปีที่ผ่านมา จากเดิมที่มีโค้ก ไลท์ ทำตลาดอยู่
และด้วยการเปิดกิจกรรมทางการตลาดในเชิงรุกแบบครบเครื่อง ประกอบกับรสชาติของโค้ก ซีโร่ที่ได้รับการยอมรับในกลุ่มคนที่ชื่นชอบน้ำอัดลม
ส่งผลให้ตลาดน้ำอัดลม 0 แคลอรี ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 600 ล้านบาท ในขณะนั้นมีการแข่งขันที่คึกคักมากขึ้น
โดยในส่วนของเจ้าตลาด เป๊ปซี่ แม็กซ์ จากเป๊ปซี่-โคล่า ต้องลุกขึ้นมารักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของตัวเองด้วยการเพิ่มสินค้าไซซ์ใหม่เข้ามาในตลาด
พร้อมทั้งมีโฆษณาออกมาตอกย้ำถึงความเป็นน้ำอัดลมไร้แคลอรีเป็นระยะๆ ตลอดปีที่ผ่านมา

"โค้ก" ปูพรมโฆษณาเปรียบเทียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ค่ายเป๊ปซี่-โคล่า ได้รีลอนช์เป๊ปซี่ แม็กซ์ ครั้งใหญ่
ด้วยการปรับดีไซน์และสีสันแพ็กเกจจิ้งใหม่ มาเป็นสีโทนดำ พร้อมกับใช้พรีเซ็นเตอร์ถึง 5 คน เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่
พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นน้ำดำ 0 แคลอรีของเป๊ปซี่ แม็กซ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โคคา-โคลา ได้ลงโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์เต็มหน้า ด้วยการใช้รูปกิ้งก่ากำลังเปลี่ยนสี
จากสีที่ออกโทนน้ำเงิน-แดง เป็นสีโทนดำ เงยหน้ามองกระป๋องโค้ก ซีโร่ พร้อมกับมีข้อความว่า ถ้าไม่อินเทรนด์จริง...จะเปลี่ยนเหรอ

ก่อนหน้านี้ โคคา-โคลา ได้มีหนังโฆษณาทางทีวีในลักษณะนี้มาก่อน โดยโฆษณาเรื่องดังกล่าวเดินเรื่องในลักษณะะที่ว่า
มีกลุ่มคนกำลังดื่มโค้กและส่งเสียงด้วยความรู้สึกสดชื่น สนุกสนาน ก่อนจะปิดฉากด้วยชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีโทนน้ำเงินที่เป็นสีสัญลักษณ์ของคู่แข่ง
ดื่มน้ำอัดลมจากถุง แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงที่สะท้อนถึงความสดชื่นเหมือนกับคนที่ดื่มโค้ก

คนในวงการชี้เล่นแรง

รายงานข่าวจากวงการน้ำอัดลม ยอมรับกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การโฆษณาในลักษณะที่เป็นโฆษณาเชิงเปรียบเทียบ
ที่เป็นการดิสเครดิตเป๊ปซี่ที่ค่อนข้างรุนแรง และมีคำถามตามมาว่า โฆษณาชิ้นดังกล่าวของโค้ก ซีโร่ ต้องการสื่ออะไรถึงผู้บริโภค
หรือเพียงเพื่อต้องการสื่อไปยังเป๊ปซี่ แม็กซ์ เท่านั้น

"เชื่อว่าหากเป็นผู้บริโภคทั่วไปถ้าดูเผินๆ ก็ไม่น่าจะคิดว่ามีอะไรในโฆษณาชิ้นนี้ และหากโค้ก ซีโร่ ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคจริง
ทำไมถึงไม่สื่อว่า โค้ก ซีโร่ ดีกว่าอย่างไร เจาะให้ถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค ไม่ต้องมาใช้วิธีการเปรียบเทียบในลักษณะนี้

โคคา-โคลา แจงไม่บลัฟแค่ย้ำจุดยืน

นายวาริท จรัณยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ว่า การลอนช์โฆษณาดังกล่าว
มีจุดประสงค์หลักเพื่อตอกย้ำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์โค้ก ซีโร่ ที่ให้รสชาติของโค้กแท้ๆ เต็มร้อย แต่น้ำตาลศูนย์เปอร์เซ็นต์
และเป็นผลงานของครีเอทีฟ จุซจี วัน

"โค้ก ซีโร่ สู่ตลาดเมืองไทยเมื่อกลางปี 2550 ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จอย่างสูง ส่งผลให้โค้ก ซีโร่ สามารถก้าวขึ้นครองอันดับ 1
ในเซ็กเมนต์ตลาดเครื่องดื่มสปาร์กลิ่งประเภทไลต์/ไดเอต ของประเทศไทยได้ภายในเดือนแรกหลังการเปิดตัว ปัจจุบันจากตัวเลขของเอซี นีลเส็น
ระบุว่า โค้ก ซีโร่ และโค้ก ไลท์ ครองความเป็น เจ้าตลาดในเซ็กเมนต์ตลาดเครื่องดื่มสปาร์กลิ่งประเภทไลต์/ไดเอตของไทยด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมมากกว่า 60%"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของตลาดภาพเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 35,000 ล้านบาท
มีการเติบโตไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสสุขภาพที่ทำให้คนรุ่นใหม่หันไปดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ แทน โดยเฉพาะเครื่องดื่มชาเขียว
ขณะเดียวกันก็ทำให้การแข่งขันของตลาดน้ำดำมีความรุนแรงมากขึ้น และทั้ง 2 ค่ายใหญ่ก็หันมาให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มน้ำดำประเภท 0 แคลอรีมากขึ้น

โดยในส่วนของ โคคา-โคลา นั้น มีเครื่องดื่มประเภทนี้อยู่ 2 ตัว คือ โค้ก ไลท์ และโค้ก ซีโร่ ขณะที่เป๊ปซี่-โคล่า มีเป๊ปซี่ แม็กซ์

เป๊ปซี่ ยันตัวเลขนั่งบัลลังก์แชมป์

แหล่งข่าวจากบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากที่ โคคา-โคลา ประสบความสำเร็จจากโค้ก ซีโร่ ล่าสุดโคคา-โคลา
ก็ได้ส่งเครื่องดื่ม สไปรท์ ซีโร่ เข้ามาเสริมอีกตัว เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการแถลงข่าวของเป๊ปซี่-โคล่า ล่าสุด ได้เปิดเผยถึงตัวเลขส่วนแบ่งตลาดของน้ำอัดลมในปัจจุบันว่า เป๊ปซี่-โคล่า
มีส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมโดยรวมทั้งน้ำดำและน้ำสีอยู่ที่ 49% จากมูลค่าตลาดรวม 35,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดน้ำดำ (เป๊ปซี่) อยู่ที่ 62%
จากมูลค่ากว่า 24,500 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดน้ำสี (มิรินด้า) อยู่ที่ 30% จากมูลค่า 10,500 ล้านบาท
และครองส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมแบบศูนย์แคลอรี (เปีปซี่ แม็กซ์) อยู่ที่ 58.3% ทั้งยังมีการเปิดเผยตัวเลขของผลิตภัณฑ์โค้ก ซีโร่ ด้วยว่า
หลังจากทำตลาดมากว่า 6 เดือน มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 41.7%

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ผ่านมาด้านของโค้กไม่เคยเปิดเผยตัวเลขส่วนแบ่งตลาดที่ชัดเจนออกมาเลย
มีเพียงแต่การแจ้งให้ทราบว่าอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจแม้ว่าในทางความเป็นจริงแล้ว ตลาดน้ำสี (แฟนต้า)
จะเป็นผู้นำตลาดก็ตาม จะมีก็เพียงแต่การออกมาประกาศส่วนแบ่งตลาดให้กับโค้ก ซีโร่ ล่าสุดนี้เอง และหากเปรียบเทียบกันแล้ว
ตัวเลขจากทั้งโค้กและเป๊ปซี่นั้นไม่ตรงกันเลย

คนโฆษณาระบุเป็นเกมปกป้องมาร์เก็ตแชร์

แหล่งข่าวในวงการโฆษณา มองว่า โฆษณาของโค้ก ซีโร่ ที่ออกมาทางสื่อสิ่งพิมพ์เป็นการโฆษณาเชิงเปรียบเทียบที่ไม่รุนแรงนัก
หากเมื่อเทียบกับในต่างประเทศที่ทั้ง 2 ค่ายนี้ทำ โดยหลักๆ ที่โคคา-โคลา ลุกขึ้นมาทำตรงนี้ ส่วนตัวมองว่าน่าจะมาจากการปรับแพ็กเกจจิ้ง
ให้ออกมาในโทนสีดำที่คล้ายกับโค้ก ซีโร่ และมองว่าเป็นความตั้งใจที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม หากฟากฝั่งเป๊ปซี่-โคล่า
ไม่ตอบโต้อะไรออกมา โคคา-โคลา ก็คงจะหยุดแคมเปญโฆษณาชิ้นนี้ไป แต่หากมีการตอบโต้จากเป๊ปซี่ เชื่อว่าเกมนี้ก็คงรุนแรงขึ้น

นายชัยประนิน วิสุทธิผล ประธานบริหาร บริษัท ทีบีดับบลิวเอประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ทั้งคู่เป็นแบรนด์คู่แข่งกันโดยตรง
เวลาวางแผนกลยุทธ์ทางด้านการสื่อสารจึงมีการพาดพิงกันมาโดยตลอด แต่รูปแบบการนำเสนอในยุคนี้เป็นอะไรที่คนทั่วไปรับได้มากกว่าในยุคก่อน
โจมตีกันชัดเจนกว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นวิธีการนำเสนอที่สร้างสีสันทางการตลาดและการสื่อสารการตลาดมากกว่าการโจมตีกันโดยตรง
โดยรูปแบบที่ออกมาดูแนบเนียนกว่าการนำข้อมูลทางการตลาดมาเปรียบเทียบเสียด้วยซ้ำ เพราะบางสิ่งบางอย่างที่นำเสนอผู้บริโภคทั่วไปจะไม่ค่อยรู้สึก

"ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเกมการตลาดที่ทุกฝ่ายต่างพยายามจะปกป้องตลาดของตัวเอง" นายชัยประนินกล่าว

http://matichon.co.th/prachachat/pracha ... ionid=0201

[o_maxxi]

coke vs pepsi
เหมือนนักกานเมือง2พรรค
แต่โหดกว่า

[o_ต่อ tapae inn]

มาบ้านผือ อุดร ไม่เห็นสักกระป๋องเลย