ไทยน้ำทิพย์ผนึกโค้กชู "เอ็มดีซี" สู้เป๊ปซี่
12 มกราคม 2550 11:08 น.
ซีอีโอไทยน้ำทิพย์ ประกาศวิชั่น ตั้งเป้า 2 ปี ดันยอดขายทะลุ 225 ล้านลัง ชูกลยุทธ์ "เอ็มดีซี" เพิ่มจุดแข็งช่องจำหน่ายร้านค้าย่อย พร้อมระเบิดมาร์เก็ตติ้งแคมเปญโคคา-โคลา ระดับโลก ภายคอนเซปต์ " Coke Side of life " เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หวังเขย่าบัลลังก์เป๊ปซี่ พร้อมกระตุ้นตลาดน้ำอัดลม มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้าน โตไม่ต่ำกว่า 3-4%
แหล่งข่าวจากวงการจัดจำหน่ายน้ำอัดลม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายพงส์ สารสิน ประธานกรรมการบริษัท ไทยน้ำทิพย์ ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมโค้ก แฟนต้า ได้ประกาศวิชั่นในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมในระยะ 2 ปี ต่อจากนี้ไปว่า บริษัทจะพยายามผลักดันยอดขายเพิ่มเป็น 225 ล้านลัง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่บริษัทไทยน้ำทิพย์จะมีอายุครบ 50 ปี ก่อนหน้านี้ไทยน้ำทิพย์ได้เดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในภาคใต้ ภายใต้ความรับผิดชอบของหาดทิพย์
ทั้งนี้ กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญคือ การเพิ่มจุดแข็งในช่องทางขายร้านค้าย่อยในเชิงลึก ที่ใช้ระบบการจัดจำหน่ายที่เรียกว่า Manual Distribution Center หรือ MDC ที่นำมาจากโคคา-โคลา ต่างประเทศ และปรับให้สอดคล้องกับการทำงานในไทย โดยจับมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้จัดจำหน่ายตั้งเป็นเซ็นเตอร์ แต่ละเซ็นเตอร์จะมีผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่เข้ามาเป็นพนักงานของ MDC โดยที่พันธมิตรจะเป็นผู้บริหาร MDC
ระบบดังกล่าว เรียกว่า ไฮบริดซิสเต็ม ซึ่งเป็นการผสมผสานการทำงานระหว่างของหาดทิพย์และพันธมิตรเข้ามาร่วมกับบริษัท วิธีนี้จะทำให้การกระจายสินค้าของโค้กลงลึกในร้านค้าย่อยมากขึ้น ในลักษณะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเอาท์เล็ต ที่จะจำหน่ายเฉพาะโค้กและผลิตภัณฑ์ในเครือเท่านั้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะทำให้ความถี่ในการเข้าร้านมากขึ้น หมายถึง สินค้าจะไม่ขาดทั้งในตู้แช่ และสต็อกในร้าน แม้ว่าปกติแล้วหน่วยรถ 200 คัน กระจายไปร้านค้าประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ในพื้นที่ที่ขายดี ส่วนบางพื้นที่ที่ยอดขายเดินช้ากว่าจะเข้าไป 1 ครั้งต่อสัปดาห์
" การปรับตัวเชิงรุกในการเข้าถึงคู่ค้าและลูกค้า ถือว่าเป็นการสกัดคู่แข่งไปด้วยในตัว " แหล่งข่าวระบุ
ด้าน นางชื่นหทัย วรรธนะดิษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นับจากนี้ไปบริษัทปรับแนวการทำตลาดใหม่ ด้วยการพัฒนากลยุทธ์ระดับโลกภายใต้คอนเซปต์ " Coke Side of life " หรือ เลือกโค้ก...ด้านดีๆ ของชีวิต อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่โค้กทั่วโลกมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก หลังจากที่ประสบความสำเร็จในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป อย่าง ฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี รวมทั้งออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ โดยจะใช้เป็นแนวทางการทำงานของโคคา-โคลา ไทย ในอีก 2-3 ปี
"แนวทางการทำตลาดดังกล่าวเสมือนเป็นการปรับให้แบรนด์มีความสดใสทันสมัยขึ้น พร้อมไปกับการปรับแพ็คเกจจิ้งให้น่าสนใจ โดยจะมีการนำเสนอแพ็คเกจจิ้ง โค้กกระป๋องที่มีลวดลายใหม่ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน ของตลาดน้ำอัดลม" นางชื่นหทัย กล่าว
นางชื่นหทัย กล่าวต่อว่า ความมุ่งหวังของกลยุทธ์ดังกล่าวคือ การเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคในระยะยาว ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ฉะนั้นแนวทางการนำเสนอจะเป็นการผสมผสานจุดเด่นของโค้ก คือ การให้ความสดชื่น และคงความสนุกสนาน โดยสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาตามสื่อต่างๆ ครบวงจร รวมทั้งกิจกรรม ณ จุดขายเพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำอัดลม ที่มีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ จากตัวเลขเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2549 พบว่า ตลาดน้ำอัดลมยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง 3-4% ซึ่งเมื่อเทียบกับบางประเทศถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีอยู่ ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าปีนี้สภาพตลาดโดยรวมยังคงมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 3-4% ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่โค้กมีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ล่าสุด โคคา-โคลา (ประเทศไทย) ได้มีการปรับสูตร แพ็คเกจจิ้งของโค้ก ไลท์ ใหม่ เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ที่อยู่ในวัยทำงาน โดยการปรับให้สูตรเป็นศูนย์แคลอรี โดยระบุว่าไม่มีน้ำตาล รวมทั้งมีการเพิ่มขนาดขวด 1.25 ลิตร ออกมาจำหน่าย
http://www.bangkokbiznews.com/viewNews. ... sid=147087