ฉลาดซื้อ ฉบับที่ 3 ตุลาคม-พฤศจิกายน 2537
น้ำอัดลม สินค้าที่มีคุณค่าทางตลาดมากว่า 16,000 ล้านบาท ทั้งที่มีราคาขายคิดเป็นหน่วยละไม่ถึงสิบบาท นับเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอยู่อย่างสม่ำเสมอ แม้จะมีเครื่องดื่มชนิดอื่นหรือน้ำธรรมดา ๆ มาทดแทนแต่ผู้บริโภคที่ติดใจในรสชาติยังคงภักดีต่อน้ำดื่มเหล่านี้ไม่เสื่อมคลาย
สองผู้ยิ่งใหญ่
ถึงแม้น้ำอัดลมจะมีอยู่หลายยี่ห้อที่ขายตามท้องตลาดแต่น้ำอัดลมเป็นอุตสาหกรรมที่มีผู้ผลิตน้อยราย สำหรับในเมืองไทยเมื่อปี 2536 ตรวจพบว่ามีผู้ผลิตทั้งสิ้น 9 รายแต่มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ช่วงชิงความเป็นผู้นำในวงการนี้ คือ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ซึ่งผลิตและจำหน่ายโค้ก แฟนต้า สไปร์ทและเมลโล่ และบริษัท เสริมสุข จำกัด ซึ่งผลิตและจำหน่ายเป๊ปซี่ มิรินด้า เมาเทนดิว เซเว่น-อัพ สัดส่วนการครองตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่สองรายนี้ รวมกันคิดเป็นร้อยละ 90 ของตลาดทั้งหมด
นอกจากจะมีโรงงานในกรุงเทพฯ แล้ว บริษัททั้งสองยังมีโรงงานในต่างจังหวัดด้วย คือ ไทยน้ำทิพย์มีโรงงานปทุมธานี ลำปางและขอนแก่น ส่วนเสริมสุขมีโรงงานอยู่ที่ปทุมธานี นครราชสีมา และนครสวรรค์
ประเภทของน้ำอัดลม
น้ำอัดลมหากแบ่งตามระบบตลาดที่มีการซื้อขายในปัจจุบันอาจแบ่งออกได้ดังนี้
1.เครื่องดื่มประเภทน้ำดำ (Black Carbonated drinks)
2.เครื่องดื่มประเภทน้ำสี หรือน้ำผลไม้ (Fruit Flavoured Drinks)
3.เครื่องดื่มน้ำประเภทไม่มีสี (Lime drinks)
คงไม่จำเป้นที่จะต้องบอกว่าน้ำดื่มยี่ห้อไหนอยู่ในเครื่องดื่มประเภทอะไร เพราะเชื่อว่าผู้อ่านส่วนใหญ่คงจะคุ้นลิ้นกับเครื่องดื่มเหล่านี้ดีอยู่แล้ว บางครั้งบางคนหลับตายังนึกออกว่าเป็นน้ำอะไร ยี่ห้ออะไรเสียด้วยซ้ำ
ระบบตลาดในเมืองไทย
ตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยมีปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปี เหมือนกับว่าวติดลมบนแล้วยากที่จะดึงลง เนื่องจากได้รับความนิยมจากบรรดานักดื่มอย่างไม่ตกหล่น โดยเฉพาะโค้กและเป๊ปซี่ ราชาและราชินีแห่งน้ำดำ ในปี 2536 เพียงแค่เดือนมกราคม-มิถุนายน พบว่ายอดจำหน่ายมีมากถึง 599.193 ล้านลิตร ถ้าหากจะนำน้ำเหล่านี้ไปเติมยามเขื่อนแห้งคงจะดีไม่น้อย
แม้ว่าในปัจจุบันน้ำอัดลมจะต้องเผชิญกับปัญหาการแข่งขันของคู่แข่งอย่างน้ำผลไม้และน้ำแร่ที่กำลังมาแรงหลายยี่ห้อ อันเนื่องจากผู้บริโภคเกรงว่าการดื่มน้ำอัดลมจะเป็นตัวทำลายสุขภาพ แต่ด้วยความเป็นเครื่องดื่มหนังเหนียวและการจัดการตลาดค่อนข้างดี ทำให้น้ำอัดลมเหล่านี้ดำรงตนอยู่ในท้องตลาดมาโดยตลอด
ช่องทางการจัดจำหน่าย
ประเทศไทยมีการจัดจำหน่ายน้ำอัดลมอยู่ 2 วิธีคือ
1.ผู้ผลิตจัดจำหน่ายโดยตรงไปยังผู้ค้าปลีกได้แก่ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้านค้า โรงแรม ซูเปอร์มาร์เก็ต โดยจัดให้ถึงที่แล้วผู้ค้าปลีกจะขายให้แก่ลูกค้าทั่งไปอีกต่อหนึ่ง
2.ขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีการจำหน่ายให้กับร้านค้าปลีกแผงลอยข้างถนน โรงเรียน หรือแม้แต่มหาวิทยาลัย ไม่เว้นแม้กระทั่งโรงพยาบาล
ไทยน้ำทิพย์ เลือกใช้วิธีจำหน่ายโดยตรง เพื่อให้การกระจายสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง นอกจากนั้นยังมีการตั้งสาขาหรือคลังสินค้าขึ้นตามจังหวัดต่าง ๆ
เสริมสุข เดิมบริษัทจัดจำหน่ายเองโดยตรงโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนในต่างจังหวัดจะจำหน่ายผ่านเอเย่นต์ ปัจจุบันได้ปรับปรุงระบบการจัดจำหน่ายใหม่โดยยกเลิกระบบเอเยนต์และวเข้าไปจัดจำหน่ายเอง เนื่องจากการใช้ตัวแทนจำหน่ายไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ส่วนทางภาคใต้นั้น บริษัท หาดทิพย์ จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโค้ก แฟนต้า สไปร์ท และเมลโล่ ในเขต 14 จังหวัดภาคใต้ โดยได้รับสิทธิ์จากบริษัทโคคา-โคลา ประเทศอเมริกา ด้านการจัดจำหน่ายของภาคใต้ใช้ทั้ง 2 วิธี
ลองหลับตานึกภาพจะเห็นได้เลย ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยย่อมไม่รอดพ้นจากตาข่ายที่บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ได้เหวี่ยงคลุมไปทุกตารางนิ้ว และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า