คราวที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ เอเชี่ยนเกมส์เป็นครั้งแรก พ.ศ. 2509 (1966)
ได้มีการบันทึกรายชื่อ ผู้ชนะเลิศ "เหรียญทอง" ในเ อเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 5 ที่ตรงผนังด้านนอก
ของสนามศุภชลาศัย.....รายชื่อเหล่านี้เอง เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนที่มาเล่นกีฬาที่สนามศุภ.
ได้"ฝัน" และทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง

ผมขอประมวลรายชื่อ "ผู้ชนะ" เหล่านั้น
เพื่อเชิดชูเกียรติ คุณลุงคุณป้า รุ่น อชก.ครั้งที่ 5 สักหน่อยนะครับ
ชื่อเหล่านี้ ทำให้ใครๆก็อยากมี พื้นที่ทางประวัติศาสตร์การกีฬา อย่างนั้นบ้าง

อ่านชื่อยาวๆนี้แล้วอย่าเพิ่งเบื่อนะครับ
อ่านว่า ปรีดา จุลละมณฑล
โปรดอ่าน อีกครั้งหนึ่ง ๆๆๆ เพราะได้สี่เหรียญทองจากสารพัดจักรยาน

ความทรงจำของ ยอดทอง (นักข่าวกีฬารุ่นใหญ่)..เขียนถึง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 ไว้น่าอ่านครับ...
http://www.siamsport.co.th/Column/100404_087.html

ชัยยะ สุขจินดา
ชนะเลิศ เหรียญทองจากยกน้ำหนักชาย

เหรียญทองมวยสากล อชก.ครั้งที่ 5

รุ่นไลท์ฟลายเวท....ประพันธ์ ดวงชะอุ่ม
รุ่นแบนตั้มเวท.......เชิดชัย อุดมไพจิตรกุล

มีรายชื่อ " ผู้ชนะ" เหรียญทอง ฟุตบอลชาย ในอชก. 5 บันทึกไว้ว่า
ทีมพม่า เป็นทีมชนะเลิศ ครับ

เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่หก จะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลี แต่เกิดสงครามเกาหลีขึ้นเสียก่อน
ญี่ปุ่นที่พร้อมที่สุดก็ปฏิเสธเพราะว่า กำลังเตรียมจัดงานแสดงสินค้าโลก EXPO1970
ดังนั้น ไทยจึงได้เป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ เบิ้ลเป็นหนที่สอง และ ได้รับฉายา"จอมเจ้าภาพ"อย่างไม่เป็นทางการ


เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่หก ที่กรุงเทพฯ 2513 [1970]

เวทีนี้เป็นที่แจ้งเกิดของ "นักวิ่งลมกรด" อาณัติ รัตนพล เพราะอาณัติคว้าไป 2 เหรียญทอง
จาก วิ่ง200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย (อาณัติ/พนัส อรยะมงคล/กนกศักดิ์ เจตะสานนท์/สมศักดิ์ ทองสุข)
กับอีก 1 เหรียญเงิน จากวิ่ง 100 เมตรชาย

สรุปทีมไทยคว้า 9 เหรียญทอง จาก
กรีฑา 2 ทอง (อาณัติ/ทีมผลัด)
มวยสากล 2 ทอง(บรรเทา ศรีสุข/มานิตย์ ตรีอสรุณลักษณ์)
จักรยาน 3 ทอง (เกรียงศักดิ์ วราวุฒิ สองเหรียญ และ ไชยณรงค์ โสภณพงษ์)
ยิงปืน 1 ทอง (ทีมชาย..ชวลิต กมุทชาติ/เสริม จารุรัตน์/อุดมศักดิ์ เทียนทอง/ปรีดา เพ็งดิษฐ์)
เรือใบ 1 ทอง (พระองค์เจ้า พีระพงศ์ ภาณุพันธ์ และ ชายาหม่อมอรุณี)

หลังเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ ลุงอาณัติ ดังมากครับ
ดังจนมีผู้กำกับหนังไทย สร้างหนังรื่อง "คนใจบอด"
เป็นหนังชีวิตที่แม่มาเล่าเรื่องให้จิตแพทย์ฟังว่า มีลูกอยู่กี่คน แต่ละคนไปทำอะไร
สมจิตร ทรัพย์สำรวย (เมียป๋าต๊อก)เล่นเป็นแม่ และ ลุงสมบัติ เมทะนี เล่นเป็นจิตแพทย์

แต่ที่เฮกว่านั้น และเรียกคนดูเต็มโรงทุกรอบก็คือ คนที่รับบท ลูกโจร ของป้าสมจิตรนี่สิครับ
นำแสดงโดย อาณัติ รัตนพล นักวิ่งลมกรดขวัญใจชาวไทย ลุงอาณัติในเรื่องนั้น มีอาชีพวิ่งราว
แต่ท้ายที่สุดก็เสร็จตำรวจจนได้ เพราะตำรวจที่ปั่นจักรยานไล่จับโจรวิ่งราว นำแสดงโดย...
ลุง ปรีดา จุลละมณฑล นั่นเอง

พอไทยได้เป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์อีกรอบในครั้งที่ 6 พ.ศ. 2513 (1970)
ก็มีการบันทึกชื่อ "ผู้ชนะ" ไว้ที่ ด้านนอกของสนามอีกด้าน (ด้านกระถางคบเพลิง)



ผู้ชนะเลิศ อชก.6 ประเภทกรีฑาครับ.....

จินโน่ ชนะอาณัติ ใน 100 เมตรชาย
อาณัติ รัตนพล เอาคืนโดยชนะเลิศในวิ่ง 200 เมตร




ทีมวิ่งผลัด 4x100เมตร เหรียญทอง อชก.6 ...
อาณัติ รัตนพล....พนัส อริยะมงคล....
กนกศักดิ์ เจตะสานนท์....สมศักดิ์ ทองสุข






ผู้ชนะเลิศเหรียญทองจักรยาน ใน อชก.6 ได้แก่

เกรียงศักดิ์ วราวุฒิ สองเหรียญทอง
ไชยณรงค์ โสภณพงษ์ หนึ่งเหรียญทอง



ในอชก. 6 ยังบันทึกว่า "พม่า" ชนะเลิศฟุตบอลชาย อีกครั้งเป็นสมัยที่สอง
อย่างนี้ ต้องขอ "ดูตัว" กันหน่อยครับ

เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่เจ็ด ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน 2517 [1974]



เอเชียนเกมส์หนนี้ ลุงอาณัติ ยังดังไม่เลิกครับ ลุงอาณัติคว้าอีก 3 เหรียญทองจาก..
วิ่ง 100 เมตรชาย /วิ่ง 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย ร่วมกับ
กนกศักดิ์ เจตะสานนท์ สมศักดิ์ บุญทัต
และ ลมกรดดาวรุ่งชื่อ สุชาติ แจสุรภาพ(ซึ่งได้ 1 ทองแดงจาก100เมตร)
(ทีมผลัดชุดนี้ถือเป็นชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬาไทย)

สรุปครั้งนี้ไทยได้ 4 เหรียญทอง จาก กรีฑา 3 ทอง
และ ปืนสั้นอัดลมทีมชาย (วิชิต เชี่ยวเวช/รังสิต ญาโนทัย/พรหมา สานะเสน/บริบูรณ์ วุฒิภักดี)

ลมกรดดาวรุ่งแจ้งเกิด...ชื่อ สุชาติ แจสุรภาพ

เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่แปด จะจัดที่ประเทศปากีสถาน แต่เกิดปัญหาการเมืองภายในประเทศ
ดังนั้น "จอมเจ้าภาพ" จังต้องเป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่ง

เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่แปดที่กรุงเทพฯ 2521 [1978]





ครั้งนี้ไทยได้เปิดใช้สระว่ายน้ำจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สำหรับแข่งว่ายน้ำ
และครั้งนี้เราก็ได้เหรียญทองเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ของกีฬาว่ายน้ำมาเชยชม
เหรียญนี้ทำได้โดยเด็กผู้หญิงอายุแค่ 15 ปี ชื่อว่า รัชนีวรรณ บูลกุล

ตอนนั้น ส่งจดหมายฉบับหนึ่ง ติดแสตมป์แค่ สามสลึง
น้ำอัดลมถ้าจำไม่ผิด...ก็ ขวดละ หกสลึง

เอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่น่าจดจำ
เพราะว่า ไม่ใช่มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่คว้าเหรียญทองได้
แต่ ผู้หญิงก็สามารถคว้าเหรียญทองให้ประเทศไทยได้ถึง 6 เหรียญ คือ...

รัชนีวรรณ บูลกุล จากว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตรหญิง
สุทธาศินี ศิริกายะ จากเทนนิสคู่ผสม (เหรียญทองแรกของวงการเทนนิสโดยเล่นคู่กับ จารึก เฮงรัศมี)
อุษณีย์ เล่าปิ่นการณ์ คว้า 2 เหรียญทองจาก วิ่ง200 เมตรหญิง และ วิ่งผลัด 4x100 เมตรหญิง
(แถมด้วย 1 ทองแดงจาก วิ่ง 100 เมตรหญิง)
ทีมวิ่งผลัด 4x100 เมตรหญิง (อุษณีย์ เล่าปิ่นการณ์/วัลภา พินิจ/ผุสดี แสงวิจิตร/บุษปราณี รัตนพล)
ทีมโบว์ลิ่ง 3 คนหญิง(อนันฑิตา หงส์โสภณ/พรทิพย์ สิงหะ/อรวรรณ นิธินวกร)
ทีมโบว์ลิ่งหญิงคู่(อนันฑิตา หงส์โสภณ/ตุ๊ อรุณประสิทธิ์)

บรรยายภาพ:
วัลภา พินิจ (คนทางขวาแถวบน) และ ผุสดี แสงวิจิตร (คนทางขวาแถวล่าง)

สำหรับทีมกรีฑาชายครั้งนี้ "นักวิ่งลมกรด" ลุงอาณัติ รัตนพล ของเรากลายเป็นนักวิ่งอาวุโสไปเสียแล้วครับ
เพราะนี้คือ เอเชียนเกมส์สมัยที่สามของลุงแก...ซ้อมวิ่งมาแล้วตั้ง 12 ปีเต็มๆ

ขนาด"คู่แฝดลมกรด" ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมวิ่งผลัด ยังกลายมาเป็นโค้ชไปแล้ว คิดดูเหอะ
แต่กระนั้น ลุงอาณัติ ยังสั่งลาเอเชี่ยนเกมส์หนสุดท้ายของท่าน "อย่างหรู"
ด้วย หนึ่งทอง (ผลัด 4x100เมตร)และ หนึ่งทองแดง (200 เมตรชาย)

ส่วน"ดารา"ของเอเชี่ยนเกมส์หนนี้ ได้แก่ "ทายาทลมกรด" สุชาติแจสุรภาพ ครับ
เขาคว้า สองเหรียญทองจาก 100 เมตรชาย และ วิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย
เป็นคู่ขวัญ กับ อุษณีย์ เล่าปิ่นการณ์ ที่คว้า สองเหรียญทองในกรีฑาหญิง