หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เป๊ปซี่ เกาะติดคอน้ำดำกับ Twitter

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 09, 2009 3:41 pm
โดย PAO
Positioning Magazine กันยายน 2552

เป๊ปซี่ เกาะติดคอน้ำดำกับ Twitter
โดย อรรถสิทธิ์ เหมือนมาตย์

ไม่เคยตกกระแสเลยสำหรับแบรนด์ ?เป๊ปซี่? ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่อย่างจริงจัง และเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ก้าวเข้าสู่โลก Digital Media ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่ Twitter กลายมาเป็น Free Marketing Tool ของเป๊ปซี่ โดยเบื้องหลังนั้นมี เจษฏากร ธราธิป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-CSD บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด และเธอได้ให้รายละเอียดกับ POSITIONING

POSITIONING : ทำไมเป๊ปซี่ถึงเลือกใช้ Twitter มาเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาด
เจษฎากร : Twitter เป็นอีกเครื่องมือการตลาดอีกอย่างหนึ่งที่มาแรงมากในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นปีของการแจ้งเกิด Microblog ที่ชื่อว่า Twitter ได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นคนดังระดับโลก ดารา นักร้อง นักการเมือง ต่างก็ใช้เครื่องมือ Twitter ในการโปรโมตตัวเองผ่านข้อความสั้นเพียง 140 ตัวอักษรกันทั้งนั้น
แน่นอนว่าสินค้าและบริการต่างก็หันมาให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน นักการตลาด นักโฆษณายุคใหม่ต่างก็สร้างสรรค์ความคิดในการเพิ่มช่องทางการโฆษณาต่างๆ บน Twitter ทั้งทำตัวเป็น User ถาม-ตอบ ข้อมูล เพิ่มเพื่อน (Friend) หรือติดตาม (Follow) ให้เกิดสังคมของตนเองมากเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ Brand ส่วนใหญ่เลือกใช้ Twitter ในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของแบรนด์ หรือร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงการใช้เป็นเครื่องมือติดต่อและสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) แทนการใช้ Call Center เราก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องเข้าไปในสื่อใหม่ตัวนี้ โดยที่เริ่มจากตั้งต้นจาก Campaign AF ที่เราเข้าไปเป็น Sponsor

POSITIONING : เป๊ปซี่ ใช้ Twitter ในด้านใดบ้าง
เจษฎากร : เราหาช่องทางในการกระจายข่าวสารเรื่อง AF ให้กับกลุ่มคนที่ชื่นชอบ AF ซึ่ง Twitter เป็นช่องทางที่ตอบโจทย์เราได้ดี เรา Start up ด้วยการ สร้าง Profile ? http://twitter.com/pepsiaf จากนั้นก็เริ่มสร้าง Network และเริ่ม Tweet ? แน่นอนว่า การอัพเดตเนื้อหาบ่อยๆ ทำให้คนอยากติดตามเราใน Twitter ก็เช่นกัน สิ่งที่เราได้กลับมาคือช่องทางกระจายข้อมูลข่าวสารช่องทางใหม่ให้กับ Brand Pepsi นั่นเอง

POSITIONING : วางแผนสื่อนี้ และ ตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร ได้ผลเป็นอย่างไร
เจษฎากร : Twitter เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครนำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จทุกราย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและใส่ใจกับเครื่องมือนี้ได้ดีกว่ากันมากกว่า ตอนนี้เรามี Follower อยู่ 251 คน แต่ไม่ได้แปลว่า เรามีคนเห็นข่าวสารที่เราต้องการบอกแค่นี้ เพราะปัจจุบันมีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งเกิดขึ้นบน Twitter นั่นก็คือ การ Re-Tweet หรือที่เรียกย่อๆ ว่า RT ซึ่งเป็นวิธีการที่ชาว Twitter นำข้อความของคนที่ตัวเองติดตามอยู่มา Tweet ซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากข้อความนั้นมีความน่าสนใจหรืออะไรก็ตามแต่ เช่น ถ้า Pepsi โพสต์ข้อความลงไปว่า ?อิชย์ ต้องออกจากบ้านเป็นคนที่ 3 แล้ว ดูได้ที่ http://??? คนที่ติดตาม Twitter ของเราอยู่บางคนเห็นข้อความของเราแล้วอยากทำการเผยแพร่ต่อ ด้วยการ Re-Tweet ว่า ?rt @pepsiaf อิชย์ ต้องออกจากบ้านเป็นคนที่ 3 แล้ว ดูได้ที่ http://???

วัฒนธรรม Re-Tweet นี้ทำให้ Twitter กลายเป็นเครื่องมือการตลาดแบบบอกต่อ หรือ Viral Marketing ที่ทรงพลังมาก สมมุติว่าเรามี Follower อยู่ 251 คน แปลว่า 251คนนี้จะเห็นข้อความของเรา ถ้ามี 5 คนที่ Re-Tweet ข้อความของเราต่อ โดยที่ทั้ง 5 คนต่างก็มี Follower ของตัวเองอยู่ 100 คนที่ไม่ซ้ำกัน แปลว่าจะมีคนอีก 500 คนที่เห็นข้อความของเรา เพียงแค่การ Re-Tweet หนึ่งต่อก็ทำให้มีคนเห็นข้อความแล้ว 1,000 คน หากมีการ Re-Tweet ต่อที่สองที่สามอีก จำนวนคนที่เห็นข้อความก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ Topic เรื่องใครออกในสัปดาห์นั้นๆ กับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบ้าน จะเป็นสิ่งที่คนทำการ Re-Tweet กันเยอะมาก ลองนึกดูว่า ขนาดคนไทยเล่น Twitter ยังมีจำนวนไม่มาก ยังสามารถกระจายข้อความดังกล่าวได้เร็วขนาดนี้ หากเมื่อไรที่คนไทยเล่น Twitter มากขึ้นเท่ากับ hi5 จะเกิดอะไรขึ้น ก็คงไม่แปลกที่ข้อความต่างๆ อาจจะถูกส่งต่อไปยังคนหลักแสน หลักล้านก็เป็นได้

POSITIONING : ใช้ร่วมกับสื่อและสื่อออนไลน์อื่นๆ อะไรอีกบ้าง
เจษฎากร : เราใช้ Twitter ร่วมกับ Website http://www.pepsithai.com/af และ Facebook http://www.facebook.com/pepsiaf ซึ่งพยายาม Integrate ใช้ร่วมกัน เช่นในช่วงประกาศผลรางวัลผู้เข้ามาโหวต AF ทุกสัปดาห์บนเว็บไซต์ Pepsithai เราก็เราก็มี Update บอกผ่านทาง Twitter เพื่อให้คนที่ Follow เราอยู่เข้ามาดูข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ได้ หรือแม้แต่เวลาที่เรา Upload Clip คอนเสิร์ตบน Facebook เราก็Tweet แจ้งให้เข้ามาดู Clip เหล่านี้ เป็นต้น

http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=82537